บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ฉลองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่สาม จากผลลัพธ์แห่งความทุ่มเทของบริษัทด้านความพึงพอใจของลูกค้า นวัตกรรม และยนตรกรรมศาสตร์แห่งศิลป์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำผลงานยอดจดทะเบียนรถยนต์อย่างแข็งแกร่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในตลาดรถยนต์พรีเมียมที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 46.6% เพิ่มขึ้น 36.1% จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย วางแผนต่อยอดความสำเร็จทางฝั่งรถมอเตอร์ไซค์ด้วยการเปิดตัว BMW M 1000 R และ BMW R 1250 GS ในตัวเลือกสีใหม่
BMW M 1000 R
BMW M 1000 R มอเตอร์ไซค์รุ่นล่าสุดจากตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู M สืบทอดอัตลักษณ์ที่โดดเด่นจาก BMW S 1000 R และ BMW S 1000 RR ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง BMW M 1000 R ใหม่ ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดโดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของผู้ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์สปอร์ตโรดสเตอร์เป็นหลัก และยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการผลักดันสิ่งที่เป็นไปได้ในการออกแบบมอเตอร์ไซค์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งของที่สุดแห่งสปอร์ตโรดสเตอร์
BMW M 1000 R ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน 4 วาล์วไทเทเนียมต่อลูกสูบ DOHC และ BMW ShiftCam ความจุ 999 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 154 กิโลวัตต์ (210 แรงม้า) ที่ 13,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 6.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่วค่าออกเทน 95-98 รวมถึงยังมีคลัตช์แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน พร้อมระบบคลัตช์ anti-hopping และระบบเกียร์ 6 สปีด แบบ constant-mesh พร้อมเกียร์ straight cut ได้รับการติดตั้งมาเพื่อการส่งกำลังที่เหนือกว่าอีกด้วย
ระบบกันสะเทือนล้อหน้าเป็นโช้คหัวกลับ ขนาด 45 มม. พร้อมปรับตั้งค่า Dynamic Damping Control (DDC) และ Preload ในขณะที่ระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นสวิงอาร์มคู่อลูมิเนียม พร้อมปรับตั้งค่า Dynamic Damping Control (DDC) โดยมีระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 117 มิลลิเมตร ระบบเบรกของ BMW M 1000 R ใหม่ มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรคเดี่ยวคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยวที่ล้อหลัง
หัวใจสำคัญของ BMW M 1000 R ใหม่ คือชุดแต่ง M Competition ด้วยคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยกระดับสมรรถนะตัวรถให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งรวมถึงชุดสี Blackstorm metallic / M Motorsport ที่นั่ง M สปอร์ต ล้อ M คาร์บอนไฟเบอร์ ที่พักเท้าแบบ M และชิ้นส่วน M คาร์บอนไฟเบอร์ต่าง ๆ บริเวณฝาครอบล้อหลัง การ์ดโซ่ ฝาครอบล้อหน้า ฝาครอบถังน้ำมัน ฝาครอบแอร์บ็อกซ์ และแผ่นเบนทางลม ระบบเบรก M ใน BMW M 1000 R ใหม่ ได้รับการพัฒนาจากประสบการณ์ที่ได้จากระบบเบรกของรถแข่งบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในการแข่งขัน Superbike World Championship ทำให้ BMW M 1000 R ใหม่ เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่สองที่ติดตั้งเทคโนโลยีนี้
BMW M 1000 R ใหม่ มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Pro และระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้เกือบทุกช่วงน้ำหนักบรรทุกและช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยไม่ต้องควบคุมคลัตช์ ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (RDC) ไฟหน้าปรับองศาตามการเข้าโค้งแบบ LED สปอยเลอร์เครื่องยนต์ และระบบทำความร้อนที่แฮนด์ยังติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่และระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ ฟังก์ชัน Brake Slide Assist ใน BMW M 1000 R ใหม่ ยังเป็นนวัตกรรมที่สำคัญและมีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ในสนามแข่งซึ่งช่วยให้เบรกดริฟต์เข้ามุมด้วยการไถลได้อย่างต่อเนื่อง
*BMW M 1000 R ใหม่ (สี Blackstorm metallic / M Motorsport) ราคาจำหน่าย: 1,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R 1250 GS แล BMW R 1250 GS Adventure
BMW R 1250 GS Adventure
BMW R 1250 GS แล BMW R 1250 GS Adventure สี GS Trophy ใหม่ สานต่อเอกลักษณ์ความทรงพลัง ผสานกับสมรรถนะการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์นักผจญภัยที่ต้องการท่องโลกกว้างทุกรูปแบบ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ ขนาด 1,254 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว เติมเต็มสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam ที่เสริมความสมดุลของเพลา ลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ ทั้งสองรุ่นให้พละกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ด้วยความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพด้วยอัตราการบริโภคน้ำมัน 4.75 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WMTC หัวฉีดระบบอิเล็คทรอนิกส์ยังได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย
BMW R 1250 GS
โหมดการขับขี่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานสามแบบคือ ‘ECO’, ‘Rain’ และ ‘Road’ เพิ่มโหมดการขับขี่แบบโปร (Riding Modes Pro) คือ ‘Dynamic’, ‘Dynamic Pro’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ นอกจากนั้น Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) ช่วยปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมปรับระดับโหลดอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่และให้สมรรถนะสูงสุด ระบบ Hill Start Control Pro ช่วยออกตัวในทางลาดชัน เพิ่มความปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบ Dynamic Traction Control และ ABS Pro ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนระบบ Dynamic engine brake control หรือ MSR ช่วยให้เบรคหลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรคในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้รถยังบังคับและควบคุมได้ในทุกสภาวะการขับขี่ เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride) และระบบทำความร้อนที่แฮนด์ ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ นอกจากนี้ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติยังช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วรถให้คงที่ได้ ในขณะที่ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (RDC) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบแรงดันลมยางผ่านระบบเซ็นเซอร์
BMW R 1250 GS Adventure
BMW R 1250 GS
BMW R 1250 GS Adventure สี GS Trophy ใหม่ มากับรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามด้วยความสูงเบาะ 880 มิลลิเมตร และระยะระหว่างขาที่ 1,920 มิลลิเมตร ในขณะที่ BMW R 1250 GS สี GS Trophy ใหม่ ก็โดดเด่นด้วยความสูงเบาะ 860 มิลลิเมตร และระยะระหว่างขาที่ 1,880 มิลลิเมตร ทำให้นักบิดมั่นใจได้ถึงการขับขี่ที่สบาย ไฟหน้า LED ที่โดดเด่นสะดุดตา มาพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน ในขณะที่ไฟหน้าแบบปรับระดับเอียงตามองศาของรถเมื่อเข้าโค้ง ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลสีแบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว และยังมีช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB สำหรับการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบ fast charge อีกด้วย
*BMW R 1250 GS Adventure สี GS Trophy ใหม่: ราคาจำหน่าย: 1,235,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
*BMW R 1250 GS สี GS Trophy ใหม่:ราคาจำหน่าย: 1,115,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)