Harley-Davidson เชิญชวนเหล่านักขับขี่พุ่งทะยานไปกับนิยาม Further. Faster. ขนไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2022 มาจัดแสดง ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2565 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ที่บูธหมายเลข M2 โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่จาก Harley-Davidson ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแห่งเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย เน้นสมรรถนะที่เหนือชั้น เต็มพลังทุกแรงบิด
รถมอเตอร์ไซค์โมเดลล่าสุดที่เปิดตัวในไลน์อัพปี 2022 ในประเทศไทย ประกอบด้วย Low Rider ST ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ลูกค้าในประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นปี 2022 ในราคาเริ่มต้นที่ 560,000 บาท สำหรับรุ่น Low Rider S 117 และ Low Rider ST 117 ราคาเริ่มต้นที่ 1,048,000 บาท และ 1,119,000 บาท ตามลำดับ
Harley-Davidson นำความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวิศวกรรมสุดล้ำมาสร้างสรรค์ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ รุ่นปี 2022 อัพเกรดด้วยฟีเจอร์สุดพรีเมี่ยม ผสานสมรรถนะชั้นยอด และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาพร้อมตัวเลือกสีใหม่ โดยไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จัดแสดงภายในบูธ Harley-Davidson ได้แก่ Low Rider ST 117, Pan America Special, Sportster S, Street Glide ST 117 และ Road Glide ST 117 ซึ่งโชว์เปิดตัวในปีนี้ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษเข้าร่วม อาทิ กาย - รัชชานนท์ สุประกอบ ส้ม - อมรา ศิริพงษ์ และปู - จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์ นอกจากนี้ Harley-Davidson ยังเตรียมจัดแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่และอุปกรณ์เสริม สินค้า General Merchandise อีกทั้งสินค้าเครื่องแต่งกายสำหรับนักขับขี่
รถมอเตอร์ไซค์ Sportster S จาก Harley-Davidson เป็นรถครุยเซอร์สมรรถนะสูง ที่ผสานพลังอันน่าทึ่งเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสไตล์อันเป็นอมตะ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution Max 1250T ขนาด 121 แรงม้า ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ Sportster S สามารถควบคุมแรงบิดตามความต้องการ แชสซีของรถคันนี้นั้นมีน้ำหนักเบา ด้านระบบกันสะเทือนระดับพรีเมียมนั้นช่วยให้รถมีการตอบสนองฉับไว และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสำหรับปี 2022 มอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster S มีเฉดสีให้เลือกถึงสามสีด้วยกัน ได้แก่ Vivid Black และ 2 สีใหม่ คือ White Sand Pearl และ Mineral Green Metallic
นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 รถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์ ทัวร์ริ่งอย่าง Pan America 1250 Special ก็ได้บุกตลาดรถแอดเวนเจอร์อย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งนี้รถมอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์สุดทน ทรงพลัง และไฮเทค อย่าง Pan America 1250 ได้รับการออกแบบใหม่ยกเครื่อง เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการเดินทาง และมอบจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ไม่ว่าจะบนถนน หรือบนเส้นทางออฟโร้ด โดยในปีนี้ Harley-Davidson ได้ปรับปรุงให้ Pan America 1250 Special มีหน้าจอ TFT ที่ชัดเจน เพื่อการมองเห็นข้อมูลต่าง ๆ ของรถ ได้ง่ายขึ้น และขยายเวลาควบคุม Vehicle Hill Hold Control ภายใต้สภาวะปกติจาก 10 วินาทีเป็น 3 ถึง 5 นาที และพิเศษสำหรับ Pan America 1250 Special มีตัวเลือกสีใหม่อย่าง Fastback Blue/White Sand และเมื่อเร็วๆ นี้ Pan America 125 Special ยังได้คว้ารางวัล Best Adventure Heavyweight จากการประกวด Thailand Bike of The Year 2022
Harley-Davidson ออกแบบรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ต-ทัวร์ริ่ง (Sport-Touring) Low Rider ST กับสไตล์ระดับตำนานที่มีรากฐานของการขี่ “มอเตอร์ไซค์ทรงสูง” มาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มาพร้อมแฟริ่งติดเฟรมในดีไซน์ใหม่หมด ตลอดจนกระเป๋าข้างขนาดกะทัดรัด โดยรถมอเตอร์ไซค์ Low Rider ST ยังได้รับการติดตั้งโช้คหลังเดี่ยวที่สูงกว่าโช้คเดี่ยวตามมาตรฐานแชสซีรถ Softail คันอื่น ๆ เน้นสมรรถนะและการขับขี่แบบไดนามิกเพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้น และเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ในระหว่างการเข้าโค้งที่แคบ การปรับพรีโหลดไฮดรอลิกใต้เบาะนั่ง ประสิทธิภาพการเบรก และยาง Michelin Scorcher 31 แบบพรีเมี่ยมช่วยยกระดับการขับขี่และคงสมรรถนะตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ทุกระดับ Low Rider ST มาพร้อมเฉดสีเคลือบ Wrinkle Black และ สีดำสไตล์รัตติกาลมาพร้อมกับสีเคลือบ
รถมอเตอร์ไซค์ในตระกูลแกรนด์ อเมริกัน ทัวร์ริ่ง ได้รับการออกแบบมาเพื่อนักขับขี่ที่กระหายการผจญภัย และพร้อมจะพาคุณโลดแล่นออกไปไกลสุดขอบฟ้า เน้นความคล่องตัวและสะดวกสบาย เพื่อให้การเดินทางของคุณไม่น่าเบื่อ รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลแกรนด์อเมริกันทัวร์ริ่งจาก Harley-Davidson ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® แบบ V-Twin เบรกแบบ Reflex™ linked Brembo® และฟีเจอร์ Cornering Rider Safety Enhancements จาก Harley-Davidson จะช่วยให้นักขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดั่งใจในทุกการเลี้ยวโค้ง
โดยตัวเลือกในแพ็คเกจยังมาพร้อมกับการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ประกอบด้วย เบรกที่เชื่อมโยงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบ Cornering Enhanced Antilock Braking System (C-ABS), ระบบควบคุมการลื่นไถลขณะเข้าโค้งเมื่อใช้งานโหมด Standard และ Rain, ระบบควบคุมแรงบิดไม่ให้ลื่นไถล, ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System: TPMS)
Harley-Davidson นำแรงบันดาลใจที่ได้จากเทรนด์รถแบกเกอร์สมรรถนะสูง และรายการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ MotoAmerica King of the Baggers Championship มาผสานไว้ในการรังสรรค์รถมอเตอร์ไซค์ Street Glide ST และ Road Glide ST โดยรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองโมเดลนี้ ยังขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแห่งเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 แบบ V-Twin พร้อมผสานความดุดันจากฝั่งตะวันตกในสไตล์สีดำและบรอนซ์ นอกจากนี้ รุ่น ST ยังมาอัดเต็มด้วยฟีเจอร์ของรถมอเตอร์ไซค์ดีไซน์แกรนด์ อเมริกัน ทัวร์ริ่งแบบครบครัน ได้แก่ เบรก Reflex linked Brembo พร้อม ABS ระบบอินโฟเทนเมนต์ Boom! Box GTS แบบหน้าจอสีสัมผัสพร้อมระบบนำทาง ระบบควบคุมความเร็ว และ ไฟหน้าแบบ Daymaker LED สำหรับผู้ขับขี่ที่กระหายความเร็วไม่รู้จบ หน้าจอสีสัมผัส Street Glide ST มาในสไตล์แฟร์ริ่งรูปทรงปีกค้างคาวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson ในขณะที่ Road Glide ST มาในสไตล์แฟร์ริ่งทรงจมูกฉลามแบบแอโรไดนามิกที่มีช่องระบายอากาศแบบแยกส่วนคงที่ (Fixed) พร้อมไฟหน้าแบบคู่
สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2565 จะได้รับฟรีบัตรกำนัลสำหรับช็อปสินค้า General Merchandise มูลค่า 5,000 บาท โดยรถมอเตอร์ไซค์ที่ซื้อภายในงาน ยังมาพร้อมการรับประกันจากโรงงานเป็นระยะเวลา 2 ปี ไม่จำกัดระยะทางการขับขี่ สิทธิในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก H.O.G.™ ระยะเวลา 1 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับสมาชิก H.O.G.™ นาน 1 ปี นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษอีกมากมาย ได้แก่ Welcome Kit สำหรับสมาชิกใหม่ มูลค่ากว่า 6,000 บาท ประกอบด้วย แบตเตอรี่กันน้ำ เป้สะพายหลัง และชุดอุปกรณ์เดินทางแบบพกพา ทั้งหมดนี้พิเศษสำหรับลูกค้าในประเทศไทยเท่านั้น
ผู้ที่สนใจหรืออยากสัมผัสคันจริงสามารถเข้ามาชมได้ที่บูธ Harley-Davidson ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2565 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
