หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ที่พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน ขอแนะนำเจ้าสองล้อ “ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” (Tiger 900 GT Pro) จาก Triumph ไว้เป็นตัวเลือก โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์แอดเวนเจอร์แอนด์ทัวรริ่งที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ที่มีความชื่นชอบแนวผจญภัยแต่ยังสามารถขับขี่ในเมืองได้เป็นอย่างดี
นายอริยพงศ์ เจริญสุข เจ้าของเพจเฟซบุ๊ค “จอห์น ไรเดอร์” (John Rider) กล่าวว่า “การจะเลือกซื้อรถจักรยานยนต์คู่ใจสักคัน อันดับแรกควรเลือกจากความเป็นตัวตนของเราหรือเลือกจากที่เราชื่นชอบ และที่สำคัญคือการเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน เพราะในที่สุดแล้วรถจักรยานยนต์จะอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้นการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ที่เราต้องการจึงเป็นสิ่งไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง
สำหรับตัวผมเองเป็นคนที่ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งในชีวิตประจำวันรวมถึงการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ดังนั้นการที่มีรถจักรยานยนต์สักคันที่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้จึงเป็นเรื่องดี ซึ่ง “ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” (Tiger 900 GT Pro) ถือเป็นรถจักรยานยนต์ที่มาตอบโจทย์ได้ครบครันทั้งการขับขี่ในเมืองรวมถึงหากต้องการท่องเที่ยวผจญภัยก็สามารถเช่นกัน”
พร้อมกันนี้จะพาทุกคนไปชม 5 จุดเด่นของ “ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” (Tiger 900 GT Pro) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์แอดเวนเจอร์ขนาดกลางที่มีความปราดเปรียวและมีความคล่องตัวในทุกการขับขี่
โครงรถใหม่แบบ modular – Tiger 900 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมโครงรถที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่เป็นการผสมผสานกันของโครงรถแบบ modular ที่มีน้ำหนักเบา โครงรถขนาดเล็กลงที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ ขณะที่ความกว้างของตัวรถที่แคบลงดูปราดเปรียวมากขึ้น ประกอบกับโครงรถด้านหน้าที่โปร่งขึ้น จากการพัฒนานี้ทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลงกว่ารุ่นก่อนถึง 5 กิโลกรัม รวมไปถึงขนาดและรูปแบบตัวถังน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ขนาด 20 ลิตร เพื่อความสามารถในการเดินทางที่ก้าวล้ำกว่าเดิม
พลิกโฉมเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ - “ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” (Tiger 900 GT Pro) มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขนาด 900 ซีซี. ใหม่ล่าสุด ส่งมอบแรงบิด 87 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบต่อนาที และให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด
เทคโนโลยีเสริมการขับขี่อันทันสมัยจัดเต็ม – เพื่อการขับขี่ในเมือง หรือรองรับการเดินทางไกลที่มากกว่าเดิม ทั้งหน้าจอเรือนไมล์ TFT ขนาด 7 นิ้วแบบ ใหม่ ระบบ ABS ในการเข้าโค้งด้วยระบบตรวจจับแรงเฉื่อย IMU ระบบไฟส่องสว่าง LED ใหม่ มาพร้อมกับไฟหน้า DRL ที่เก็บโทรศัพท์มือถือพร้อมช่องเสียบชาร์จ USB ปุ่มสวิตช์เรืองแสงที่บังคับได้ 5 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอิเล็กทรอนิกส์ และแฮนด์บังคับปรับความร้อนได้ (Heated Grips) เป็นต้น โดยที่รุ่น GT Pro จะมาพร้อมกับระบบ Triumph Shift Assist ใหม่ ช่วยเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงไม่ต้องบีบคลัตช์ และสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน My Triumph เพื่อการใช้งานโทรศัพท์ เล่นเพลง ระบบนำทางแบบ turn-by-turn และการควบคุมกล้อง GoPro โดยสามารถเข้าถึงระบบได้จากปุ่มกดและแสดงผลบนหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว รวมถึงไฟตัดหมอกเสริม LED เบาะนั่งปรับความร้อนได้ทั้งผู้ขับขี่และเบาะผู้โดยสาร และระบบควบคุมแรงดันลมยาง (TPMS) เสริมเข้ามา
ระบบความปลอดภัยชั้นนำ - ด้านคุณลักษณะเฉพาะของระบบกันการสั่นสะเทือน พร้อมส่งมอบความเป็นไทเกอร์ที่ควบคุมได้ดีกว่าเคยด้วยโช้ค Marzocchi ขนาด 45 มิลลิเมตร โดยในรุ่น GT Pro จะเป็นโช้คหลังแก๊สที่ปรับตั้งค่าได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งมั่นใจไปอีกขั้นด้วยดิสเบรกหน้าแบบคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร และดิสเบรกหลังเดี่ยว ขนาด 255 มิลลิเมตรจาก Brembo ช่วยให้การควบคุมรถโดดเด่นและมีประสิทธิภาพสำหรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ สำหรับไทเกอร์ 900 จีที โปร (Tiger 900 GT Pro) มาพร้อมกับโหมดการขับขี่สูงสุด 5 โหมด ได้แก่ Rain, Road, Sport, Off-Road และ Rider และไทเกอร์ 900 จีที (Tiger 900 GT) มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ Rain, Road และ Sport และ Off-Road
อุปกรณ์ตกแต่งเสริมเพื่อ Tiger 900 ตามสไตล์ผู้ขับขี่ - อุปกรณ์เสริมของแท้จาก Triumph กว่า 65 รายการที่ถูกออกแบบมาควบคู่กับตัวรถเพื่อให้สามารถตกแต่งเข้าชุดกันได้อย่างลงตัว และมีคุณภาพ โดยมีชุดเก็บสัมภาระใหม่ 2 แบบเป็นการร่วมมือกับ Givi โดยในชุด Trekker จะเป็นกระเป๋าสัมภาระแบบเปิดด้านข้างพร้อมกล่องเก็บหมวกกันน็อคด้านหลังขนาด 52 ลิตร ส่วนชุด Expedition จะเป็นกระเป๋าสัมภาระแบบเปิดจากด้านบนติดตั้งคู่กับกล่องสัมภาระด้านหลังขนาด 42 ลิตร นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย สไตล์ ความสามารถในการขับขี่และความสะดวกสบายในการเดินทางทุกรูปแบบ
ทั้งนี้ “ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) ราคา 549,000 บาท และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” (Tiger 900 GT Pro) ราคา 639,000 บาท มีให้เลือก 3 สี ให้เลือกสรร ได้แก่ Korosi Red, Sapphire Black และ Pure White ซึ่งทุกสีจะมีตราสัญลักษณ์ติดที่ตัวถังสุดพรีเมี่ยม สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและทดลองขี่ได้ที่โชว์รูม Triumph 14 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand