เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 14 เมษายน 2563 - 22:06

Alex Marquez เฉือนพี่ชายคว้าโพเดี้ยม MotoGP Virtual Race สนามสอง

 

          ยอดนักบิดสองพี่น้องเลือดกระทิง Marc และ Alex Marquez จากทีมแข่ง Repsol Honda มอบความสุขและความตื่นเต้นให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก หลังทำศึกสายเลือดเพื่อแย่งชิงตำแหน่งบนโพเดี้ยม ในเกมดวลความเร็วแบบออนไลน์ MotoGP Virtual Race สนามสอง สุดท้ายเป็นน้องชายที่เฉือนคว้าชัยชนะในอันดับที่ 3 ไปครอง

 

 

          การแข่งขัน MotoGP Virtual Race หรือโปรเจกต์ #StayAtHomeGP ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเวลาที่ไวรัสโคโรนา Covid-19 กำลังระบาดและส่งผลกระทบต่อโปรแกรมการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาล 2020 อย่างหนักหน่วง โดยเกมชิงชัยสนามที่สอง มีขึ้นที่ Redbull Ring Circuit ประเทศออสเตรีย เมื่อช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา

 

 

          ไฮไลต์ของการแข่งขันเรซนี้อยู่ที่การดวลเดือดกันเอง ระหว่างยอดนักบิดดีกรีแชมป์โลก Marc และ Alex สองพี่น้องยอดนักบิดตระกูลมาร์เกซ สังกัดทีมแข่ง Repsol Honda ที่ต่างโชว์ทักษะการขับขี่แบบเสมือนจริงเพื่อต่อสู้แย่งชิงพื้นที่บนโพเดี้ยมแบบไม่มีใครยอมใคร

          หลังดวลความเร็วครบ 10 รอบ ผลปรากฏว่าเป็นน้องชายที่สามารถพารถแข่ง Honda RC213V หมายเลข 73 รับธงตราหมากรุกในอันดับที่ 3 เฉือนเอาชนะพี่ชายในสายเลือด ซึ่งตามหลังเข้าวินในอันดับที่ 4 เพียง 3 วินาที ขณะที่ยอดนักบิดญี่ปุ่นอย่าง Takaaki Nakagami จากทีมแข่ง LCR Honda ที่มาร่วมแจมสนามนี้ด้วย จบเรซในอันดับที่ 8

 

 

          Alex Marquez กล่าวว่า “นี่คือการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น! ผมมีความสุขที่ได้กลับมายืนบนโพเดี้ยมหลังจบศึกอันดุเดือดที่ Redbull Ring หลังจากชนถึงสองครั้ง แต่ยังจบเรซบนโพเดี้ยมถือเป็นสิ่งที่พิเศษมาก ผมมีความสุข และหวังว่าแฟนๆ ที่ติดตามรับชมจะมีช่วงเวลาที่ดีและสนุกกับการแข่งขันเช่นเดียวกัน”

         ทางด้าน Marc Marquez กล่าวว่า “เหมือนกับศึก MotoGP Virtual Race สนามแรก ผมสนุกมากที่ได้แข่งขันกับทุกคน เราจบเรซในตำแหน่งท็อปไฟว์เป็นสิ่งที่เราต้องการ และขอแสดงความยินดีกับ Alex Marquez ที่สามารถคว้าโพเดี้ยมได้อีกครั้ง สำหรับสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การที่เราได้ส่งมอบความสุขให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง”

 

#AM73 #MM93 #RepsolHonda #TN30 #LCRHonda #eSport #StayAtHomeGP #MotoGPVirtualRace

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook