Kawasaki Green Day กิจกรรมเพื่อเชิญชวนกลุ่มลูกค้า Kawasaki อาทิ Naked Bike (Z Series) / Z900RS / Z900RS CAFE / W800 / W250 / W175 / Vulcan S ร่วมทำความดีเพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องในวันปิยะมหาราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา
โดยในช่วงเช้าได้นัดหมายรวมตัวกันที่ “ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ” และออกเดินทางในเวลา 08.30 น. เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเรือป้าลี่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และนั่งเรือต่อไปยังท่าเรือวัดขุนสมุทรจีน ในเวลา 10.00 น. โดยประมาณ หลังจากนั้นทั้งคณะได้เดินเท้าผ่านเส้นทางป่าชายเลน โดยระหว่างทางได้พบว่ามีเศษขยะทะเลจำนวนมากที่ถูกน้ำทะเลพัดเข้ามายังชุมชน และบริเวณทางเข้าวัด ซึ่งเมื่อทุกคนไปถึงทางด้านผู้นำชุมชน “นายสุวรรณ บัวพาย” ได้มาคอยต้อนรับเพื่อบรรยายความเป็นมาของชุมชนขุนสมุทรจีนรวมถึงที่มาของขยะทะเลที่พวกเราได้เห็นระหว่างเดินเท้าเข้ามายังวัดนั้นว่ามาจากที่ใดบ้าง..
หมู่บ้านขุนสมุทรจีนมีอายุกว่า 300 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่บนแหลมขนาดเล็กที่ยื่นออกไปในทะเลอดีตเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าจากเรือสำเภาจีน บริเวณใกล้กับปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นเส้นทางผ่านของเรือสินค้าและเรือพาหนะของประเทศต่างๆ เข้าสู่บางกอกและกรุงศรีอยุธยา ประชากรส่วนใหญ่มีบรรพบุรุษเป็นชาวจีนอพยพมากับเรือสำเภา ส่วนใหญ่มาค้าขายบริเวณวัดแหลมฟ้าผ่าเดิม ปัจจุบันชุมชนขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่วิกฤติที่มีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง เนื่องมาจากการใช้เรือขุดโคลนสันดอนไปทิ้งกลางทะเล จึงทำให้ดินชายฝั่งไหลเลื่อนลงสู่ทะเลจมหายไป ร่วมกับการตัดไม้ป่าชายเลนและภาวะโลกร้อน ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำต้องย้ายบ้าน 10 ปีต่อครั้ง ทรัพยากรการท่องเที่ยวภายในชุมชน ประกอบด้วย ป่าชายเลน สุสานหอย สภาพน้ำและพันธุ์พืชสัตว์ชายฝั่งคลองของชุมชน วัตถุโบราณ พิพิธภัณฑ์ วัดศาลเจ้า แหล่งเกษตรกรรม ภูมิปัญญาประมงชายฝั่ง ส่วนสาเหตุของขยะบริเวณรอบป่าชายเลนดังกล่าวเกิดจากชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบการอิทธิพลของพายุที่พัดเข้า สู่อ่าวรูปตัว ก ซึ่งชุมชนบ้านขุนสมุทรจีนนั้นเป็นจุดที่เป็นแอ่ง ทำให้ได้รับผลกระทบมากที่สุด
หลังจากรับฟังการบรรยายจากผู้นำชุมชนแล้ว ทุกคนได้พร้อมใจกันร่วมทำบุญเพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่พร้อมถวาย และรับพรจากท่านรองเจ้าอาวาสวัดขุนสมุทรจีน ก่อนที่จะเริ่มทำการเก็บขยะโดยรอบบริเวณวัด และชุมชน รวมถึงป่าชายเลน ซึ่งขยะส่วนใหญ่ที่พบเห็นเป็นจำนวนมากนั้น จะเป็นขวดเครื่องดื่มพลาสติก กระป๋องเครื่องดื่ม ขวดแก้ว ถุงพลาสติก เศษโฟม และขยะประเภทอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหลังจากที่ทุกคนได้ทำการเก็บขยะเรียบร้อยแล้วนั้น พวกเราทั้งคณะได้รวมตัวกันที่ “ศาลเจ้าพ่อหนุ่มน้อยลอยชาย” เพื่อรับประทานอาหารร่วมกันโดยเป็นอาหารที่ทางชุมชนได้จัดเตรียมไว้ให้ พวกเราได้อำลาชาวบ้าน และชุมชนขุนสมุทรจีนด้วยการถ่ายภาพหมู่ไว้เป็นที่ระลึก และนั่งเรือกลับไปยังท่าเรือป้าลี่ เพื่อเดินทางต่อไปยัง “ป้อมพระจุล” ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากท่าเรือ และใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีเท่านั้น เมื่อทุกคนเดินทางมาถึง “ป้อมพระจุล” ซึ่งถือเป็นสถานที่สุดท้ายก่อนที่จะเดินทางกลับ พวกเราได้มีโอกาสเก็บภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับ “เรือหลวงแม่กลอง” ซึ่งเป็นเรือรบที่มีประวัติศาสตร์คู่บ้านคู่เมืองกับชาวไทยมานาน พร้อมทั้งสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ซึ่งได้ประดิษฐานเพื่อเป็นราชานุสรณ์ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และกองทัพเรือได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าชมด้วย ป้อมพระจุลจอมเกล้าจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของสมุทรปราการ
ป้อมพระจุลจอมเกล้า หรือ เรียกสั้นๆว่า “ป้อมพระจุล” เป็นป้อมปราการทางน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมทุรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นเมื่อใด ไม่พบหลักฐานแน่ชัด แต่คาดว่าสร้างขึ้นในราวเดือน มีนาคม พ.ศ.2427 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อป้องกันการรุกรานจากอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชัยภูมิเหมาะสม หากมีเรือรบของข้าศึกบุกเข้ามาทางปากน้ำ ป้อมแห่งนี้สร้างเป็นป้อมปืนใหญ่แบบตะวันตก และได้ติดตั้งปืนใหญ่อาร์มสตรอง 152มม. จำนวน 7 กระบอกเป็นอาวุธหลักของป้อม ทำให้ป้อมนี้เป็นป้อมปราการของสยามที่ทันสมัยมากที่สุดในเวลานั้น ปัจจุบันป้อมพระจุลจอมเกล้าขึ้นตรงกับฐานทัพเรือกรุงเทพ
โดยก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยและเดินทางกลับ ทางผู้บริหารของคาวาซากิ ได้กล่าวขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ได้ร่วมทำความดีกับกิจกรรม Kawasaki Green Day ครั้งนี้ และได้ทำการจับคูปองเพื่อมอบของที่ระลึกพิเศษให้กับผู้โชคดีอีกด้วย เรียกได้ว่า ทริปนี้ อิ่มบุญ อิ่มท้อง พร้อมหอบของรางวัลเต็มกระเป๋ากลับบ้านกันเลยก็ว่าได้
Kawasaki ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันคัดแยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อโลกที่น่าอยู่ของเราทุกคน Kawasaki Save The Earth… สำหรับกิจกรรมพิเศษครั้งถัดไปท่านสามารถติดตามได้ที่ Kawasaki Motors Thailand Fanpage และ www.kawasaki.co.th