นักแข่ง MotoGP สังกัดทีม Repsol Honda อย่าง Jorge Lorenzo ได้ออกมาเปิดเผยว่ามันเป็นอะไรที่โง่มากๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำเขาต้องได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือจาการฝึกซ้อมรถมอเตอร์ไซค์วิบาก จนต้องได้รับการผ่าตัดในอีก 2 วันต่อมา และทำให้เขาต้องพลาดการลงทำสอบรถแข่งก่อนเปิดฤดูกาลที่สนามเซปัง ที่กำลังจะใกล้เข้ามาถึงนี้
"มันเป็นครั้งแรกที่ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากในเส้นทางของประเทศอิตาลี ความผิดพลาดอย่างแรกก็คือผมไม่ได้เช็คเส้นทางที่ถูกต้องให้ดีซะก่อน ซึ่งบางส่วนของสนามนั้นมีลักษณะเหมือนโคลนเหนียวๆ ที่ยากต่อการมองเห็น หน้าผิวพื้นถนนนั้นดูเหมือนจะเป็นพื้นแห้งปกติธรรมดา แต่จริงๆแล้วมันเป็นพื้นโคลน และเมื่อผมขับไปถึงช่วงดังกล่าว มันทำให้ล้อหน้าผมล็อคและผมก็ล้มลงแบบโง่ๆ โชคไม่ดีเท่าไรนักที่่ข้อมือของผมยังไม่หายดีเท่าไรนักจากการล้มลงเมื่อตอนไปแข่งขันที่ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นผมจึงมีสภาพที่ไม่สมบูรณ์เต็ม 100% มันจึงส่งผลให้กระดูกที่ข้อมือผมหักอีกครั้งนึง"
"ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว อาการบาดเจ็บของผมน่าดีขึ้นและสามารถกลับไปขี่รถแข่งได้อีกครั้งที่สนามเซปังฯ แต่จากที่เหตุการณ์ทั้งหมด เราตัดสินใจที่จะพักรักษาตัวให้หายดีและกลับไปลงทดสอบอีกทีที่กาตาร์ ในอีก 34 วันข้างหน้า แต่ผมไม่คิดว่าผมจะกลับมาฟิตเต็ม 100% บางทีมันจะเป็นแค่ 80 - 85% เท่านั้น และอาจจะกลับมาฟิตถึง 90 - 95% ในการแข่งขันจริงที่กาตาร์ ผมไม่ได้อยากที่จะให้การล้มครั้งนี้มันเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและเป็นสถานการณ์โชคร้ายอย่างมาก แต่เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้น สิ่งที่เราต้องทำก็คือมองไปข้างหน้าและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นกายภาพบำบัดหรือใช้เครื่องมือต่างๆ ซึ่งเราวางแผนที่ทำมันในระหว่างที่ผมพักฟื้น ผมคิดว่าในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ผมอาจจะขยับข้อมือได้บ้างเล็กน้อยและอาการมันน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ" Jorge Lorenzo ให้สัมภาษณ์
ส่วนทางด้าน Alberto Puig หัวหน้าทีมแข่ง Repsol Honda ก็ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า "ตอนนี้มันไม่ใช่สถานการณที่ดีที่สุด แต่มันก็ดีกว่าเกิดเรื่องแบบนี้ในช่วงกลางฤดูกาล ดังนั้นเราจะใช้เวลาช่วงนี้ลำดับความสำคัญว่านักแข่งนั้นจะต้องฟิตเต็ม 100% ภายในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเปิดฤดูกาลการแข่งขัน MotoGP 2019 เป็นสนามแรก"
