Gigi Dall'Igna หัวหน้าทีมเทคนิคของทีมแข่ง Ducati MotoGP เชื่อว่า ทาง Ducati น่าจะได้ประโยชน์จากการที่ทางทีมจะส่งรถแข่งในแบบที่เรียบง่ายให้กับทีมอิสระในการแข่งขัน MotoGP 2019 โดยในฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมามีรถแข่งจากทาง Ducati ถึง 6 คันด้วยกันอยู่ในสนามที่แข่งควบคู่ไปกับทีมโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นทีม Nieto และ Avintia ที่ใช้รถแข่ง GP16 - GP17 ทั้ง 2 ทีม แต่สำหรับใน MotoGP 2019 ทีมแข่ง Nieto จะไม่เข้าร่วมการแข่งขัน MotoGP ส่วนทางด้านทีม Avintia จะหันไปใช้รถแข่ง GP18 ให้กับทาง Karel Abraham และ Tito Rabat ส่วนทีมแข่ง Pramac ก็จะให้ทางด้าน Jack Miller ขี่รถแข่ง Desmosedicis GP19 ควบคู่กับ Francesco Bagnaia ที่จะยังคงใช้รถแข่ง GP18 อยู่ ซึ่งนั่นหมายความว่าในการแข่งขัน MotoGP 2019 จะมีรถแข่งจากทาง Ducati เพียง 2 เวอร์ชั่นเท่านั่นที่ทำการแข่งขันอยู่ในสนาม
"ใน MotoGP 2019 เราจะมีรถแข่งเพียง 2 เวอร์ชั่นในสนามเท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าละอายในเรื่องของงบประมาณ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันทำให้เราสามารถัดการระบบได้ง่ายมากขึ้น เพราะว่าในปี 2018 ที่ผ่านมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบริหารจัดการรถแข่งถึง 3 เวอร์ชั่นในสนาม ในปี 2019 เราจะมีนักแข่ง 3 คนที่ขี่รถแข่ง GP18 และมีนักแข่งอีก 3 คนที่ขี่รถแข่ง GP19 และถึงแม้ว่ามันจะได้เงินน้อยลง แต่ผมเห็นว่ามันน่าจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเรียบง่าย"
"ส่วนนักแข่งใหม่ของเรา เราขีดเส้นใต้ย้ำเสมอว่าเรามีวิธีปั้นนักแข่งหน้าใหม่ที่แตกต่างกับทีมอื่นๆ เพราะว่าเราได้สลับช่างเทคนิคระหว่าง 2 ทีมระหว่างทีม Pramac และทีมโรงาน Ducati เพื่อให้นักแข่งที่มีความต่อเนื่อง โดย Danilo Petrucci จะยังคงทำงานร่วมกับทาง Cristian Battaglia หัวหน้าช่างเทคนิคของเขา ส่วนทางด้าน Francesco Bagnaia จะมี Cristian Gabarrini เป็นหัวหน้าทีมช่าง และ Tommaso Pagano ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ที่เคยทำงานร่วมกับ Jorge Lorenzo เพราะว่าพวกเขานั้นมีสไตล์การขี่ที่คล้ายกัน ผมจึงคิดว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่เราต้องเข้าใจว่าอะไรเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ Ducati ในการปั้นนักแข่งหน้าใหม่" Gigi Dall'Igna ให้สัมภาษณ์