Joan Mir นักแข่งดาวรุ่ง MotoGP คนใหม่ของทาง Suzuki ได้ออกมาเผยว่า รถแข่ง MotoGP นั้นดูเหมือนว่าจะเหมาะกับเขามากกว่าในสมัยที่เขาแข่ง Moto2 หลังจากที่เขาได้ลองขี่มันเป็นครั้งแรกในการทดสอบที่ Valencia ที่ผ่านมา โดยทางด้าน Joan Mir แชมป์โลก Moto3 2017 ได้ถูกทาง Suzuki ดึงตัวมาขยับขึ้นมาแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแขมป์โลกในรุ่นใหญ่ที่สุดหลังจากที่ขยับมาลงแข่งขัน Moto2 ในปีนี้ ด้วยผลงานการจบการแข่งขันในอันดับที่ 6 ในตารางคะแนนสะสม และการคว้าแชมป์ได้ถึง 4 สนาม ซึ่งผลงานล่าสุด เขาจบการทดสอบรถแข่งที่ MotoGP ที่ Valencia ในอันดับที่ 14 ตามหลัง Alex Rins เพื่อนร่วมทีมอยู่ 0.460 วินาทีเท่านั้น
"แน่นอนว่ารถแข่งนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะว่ารถแข่ง MotoGP นั้นดูเหมือนรถแข่งจริงๆมากกว่า ส่วนรถแข่ง Moto2 นั้นคล้ายกับรถจักยานที่วิ่งบนท้องถนน ซึ่งรถแข่ง Moto2 นั้นจะมีวิธีการขี่ที่แปลกๆและแตกต่างออกไปจากการขี่รถแข่ง MotoGP หรือ Moto3 และด้วยรถแข่ง MotoGP ผมสามารถดึงทักษะของผมออกมาได้อย่างเต็มที่ในการเบรค แต่ด้วยรถแข่ง Moto2 ปกติผมจะต้องพยายามที่จะเบรคให้หนักกว่าเดิม จนทำให้ผมออกไลน์ที่กว้างเกินไปและไม่สามารถเดินคันเร่งได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่สามารถคว้าชัยได้ในหลายสนาม นั่นก็หมายความว่าด้วยรถแข่ง MotoGP มันจะขี่สนุกมากกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสไตล์การขี่ของผม"
"หลังจากการทดลองขี่รถแข่ง MotoGP ครั้งแรก ผมคิดว่ายังมีช่องว่างอยู่มาก และผมคิดว่าผมสามารถทำได้ดีมากกว่านี้อีก เมื่ออุณหภูมิบนแทร็กนั้นเริ่มลดลงทางทีมนั้นตัดสินใจที่จะไม่ลงทำการทดสอบต่อ แต่ผมยังอยากที่จะพยายามที่จะทำเวลาให้ดีกว่ากว่าเดิมอย่างน้อย 1 วินาที ซึ่งผมก็สามารถทำได้ในที่สุด เรามีการพัฒนาที่ดี และนั่นเป็นสิ่งที่ผมดีใจมากที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ เป้าหมายของผมในปี 2019 ก็คือการเริ่มสตาร์ทฤดูกาลในกาตาร์ด้วยการจบการแข่งขันด้วยในระยะเวลาตามหลังอันดับหนึ่งไม่เกิน 20 วินาที จากนั้นจึงเริ่มลดระยะห่างลงเรื่อยๆ นั่นคือเป้าหมายหลักของผม ที่จะทำให้ผมจบฤดูกาลแบบมีความสุขจริงๆ" Joan Mir กล่าว
