กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย จับมือ จังหวัดบุรีรัมย์, ปตท. ค่ายพลังงานยักษ์ใหญ่ของไทย และ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แถลงความพร้อมเป็นเจ้าภาพ MotoGP ครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ชาติไทย รายการ PTT Thailand Grand Prix เผยพร้อมเต็มร้อยรองรับศึกมอเตอร์สปอร์ตสุดยิ่งใหญ่ของโลก และแฟนความเร็วหลายแสนคนชวนคนไทยร่วมนับถอยหลังก่อนระเบิดความมันส์ 5-7 ตุลาคมนี้
สำหรับศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP 2018 มีคิวเดินทางมาดวลความเร็วครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยถูกบรรจุเป็นสนามที่ 15 ภายใต้ชื่อรายการ PTT Thailand Grand Prix ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2561 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ จังหวัดบุรีรัมย์, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) , สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และเหล่าพันธมิตรร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี 2018 สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย(หัวหมาก) โดยได้รับเกียรติจาก นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว พร้อมด้วย พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และนายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ร่วมแถลงข่าวด้วย
คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “นี่คือก้าวสำคัญของประเทศไทยในการประกาศความยิ่งใหญ่กับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ที่ได้รับการจับตาจากแฟนๆ กว่า 800 ล้านคนทั่วโลก โดยคาดว่าในช่วงของการจัดงาน จะมีทั้งทีมนักแข่ง ผู้ชม และนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์มากกว่า 100,000 คน และด้วยความร่วมมือ และการทำงานหนักของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน วันนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะดูแลนักแข่ง แฟนมอเตอร์สปอร์ต และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติกว่า นับแสนคนที่จะเดินทางมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย และ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะมีเงินหมุนเวียนในประเทศไทยหลายพันล้านบาท”
ด้าน พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพ โมโตจีพี ครั้งแรกของประเทศไทยว่า “กกท. ในฐานะแม่งานพร้อมทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้ โมโตจีพี ครั้งแรกของประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ เราเชื่อพลังของคนไทยทุกภาคส่วนจะทำให้แฟนๆ ทั่วโลกและแฟนชาวไทยได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจากการแข่งขันครั้งนี้ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่ประเทศของเราได้สร้างชื่อเสียงในระดับโลก การเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี จะปักหมุดประเทศไทยในแผนที่มอเตอร์สปอร์ตโลก และประกาศให้เห็นถึงศักยภาพคนไทยในการจัดการแข่งขันอีเวนท์กีฬายิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของโลก เป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยทั้งในแง่การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และความเป็นเมืองกีฬาชั้นนำในระดับโลก"
ด้าน คุณอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า “ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเจ้าบ้าน เราเตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อรองรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต และนักท่องเที่ยวหลายแสนคนจากทั่วโลก ที่จะหลั่งใหลมาที่ บุรีรัมย์ ในช่วงดังกล่าว ทั้งเรื่องของการอำนวยความสะดวกต่างๆ และการรณรงค์ให้ชาวเมืองเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี”
ขณะที่ คุณตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมส่วนต่างๆ เพื่อรองรับแฟนความเร็วจากทั่วโลกว่า “ตอนนี้ในสนามเราทำงานกันอย่างหนักและจะพร้อมเต็มร้อยสำหรับสุดสัปดาห์ของการแข่งขันโมโตจีพีอย่างแน่นอน ทั้งการสร้างอัฒจันทร์เพิ่มเติม เพื่อรองรับการชมในทุกพื้นที่รอบแทร็กแข่งขัน เพื่อรองรับผู้ชมจากปรากฏการณ์จำหน่ายตั๋วชมการแข่งขันกีฬาที่มากที่สุดในประเทศไทย ส่วนจุดจอดรถยนต์รอบเมืองบุรีรัมย์ ได้มีการประสานงานเพื่อเพิ่มจากจุดจอดปกติของสนาม เพื่อให้ความสะดวกแก่ทุกท่านที่เดินทางมายังสนาม พร้อมบริการรถรับส่งฟรี ถึงหน้าทางเข้าสนามแข่งขัน ซึ่งมีมากถึง 26 จุด และยังมีจุดบริการจอดจักรยานยนต์ ทั้งในและนอกสนามแข่งขัน ซึ่งสามารถรับรองรถจักรยานยนต์ได้จำนวนหลายหมื่นคัน” นายตนัยศิริ เผยสำหรับจุดบริการรถรับ-ส่ง ภายในสนามแข่งขันจะมีถึง 3 สาย พร้อมบริการรับส่งภายในสนามเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าชม จากประตูทางเข้าทุกด้าน จุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมหน่วยปฐมพยาบาลและห้องน้ำ รอบบริเวณสนาม ครอบคลุมทุกสแตนด์ชมการแข่งขัน พื้นที่ต้อนรับ และลานกิจกรรม
นอกจากนี้ คุณตนัยศิริ ยังกล่าวถึงการสื่อสารของสื่อมวลชนไปทั่วโลก ซึ่งทางสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้ไว้อย่างเต็มที่ว่า “เราเตรียมมีเดีย เซ็นเตอร์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการทำงานครบครัน บริการอาหารเครื่องดื่ม พร้อมรอต้อนรับสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลก และสื่อในประเทศ นอกจากนี้ สร้าง มีเดีย พาวิลเลียน ชั่วคราวเพิ่มขึ้นมา ณ ลานกิจกรรม เพื่อดูแลสื่อมวลชนไทยเพิ่มเติมอย่างทั่วถึงที่สุด ขณะเดียวกันเรายังได้รับความร่วมมือจากผู้สนับสนุนภาคเอกชนมากมาย ที่เตรียมกิจกรรมพิเศษพร้อมรับนักท่องเที่ยวตลอด 3 วัน บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้ผู้ชม โมโตจีพี ที่ประเทศไทยมีความสุขที่สุดในโลก ด้วยบัตรเข้าชมราคาถูกที่สุด และกิจกรรมความบันเทิงมากที่สุด” นายตนัยศิริ ทิ้งท้ายทั้งนี้ การแข่งขัน โมโตจีพี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทยจะมีจุดให้ความรู้และความบันเทิงแก่แฟนความเร็วที่เข้าชมในสนามแข่งขัน โดยเนรมิตรให้มี “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เอ็กซ์โป” (PTT THAILAND GRAND PRIX EXPO) ซึ่งเป็นการรวมตัวของร้านค้าของผู้สนับสนุนสินค้ามอเตอร์สปอตมากกว่า 100 ร้านค้าในราคาพิเศษ รวมถึง มวยไทย เอ็กซ์โป (MUAY THAI EXPO) พื้นที่จัดแสดงสินค้าเกี่ยวกับมวยไทย โชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยเอกลักษณ์ประจำชาติ เพื่อเผยแพร่ให้มวยไทยดังไกลสู่ระดับโลก และกิจกรรมพิเศษในช่วงเย็นของแต่ละวัน โดยในวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ จะได้พบกับสุดยอดแม่ไม้มวยไทยนายขนมต้มชิงแชมป์มวยไทยและซุปเปอร์ไฟต์จากนักมวยในตำนานอย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ พบ สมรักษ์ คำสิงห์ ส่วนวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ แฟนความเร็วจะได้สนุกสุดมันส์ไปกับ คอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย ใน ช้าง มิวสิค คอนเน็คชั่น (Chang Music Connection) นำโดย “ว่าน ธนกฤต”, “อะตอม ชนกันต์” และ “วงเก็ตสึโนว่า” ปิดท้ายความยิ่งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ พบกับมินิคอนเสิร์ตเกิร์ลกรุ๊ปที่ฮอตที่สุดอย่าง BNK48 ที่จะมามอบความสุข ด้วยความน่ารักสดใสของน้องๆ จัดเต็ม 16 คน มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญไปด้วยกัน กับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ทางเรียบชิงแชมป์โลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ครั้งแรกในประเทศไทย 5-7ตุลาคมนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
