แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต และเหล่าไบค์เกอร์ที่ติดตามการแข่งขัน MotoGP คงจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนาม Termas de Rio Hondo ประเทศอาเจนติน่า ซึ่งเป็นสนามที่ 2 ของ MotoGP ฤดูกาล 2018 ได้อย่างไม่มีวันลืม เพราะเป็นการแข่งขันที่สนุก มีครบทุกรสชาติ และมีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นอย่างมากมาย ส่วนใครที่พลาดชม ทาง BoxzaRacing ได้รวบรวมเหตุการณ์สุดช็อคไว้ให้แล้วในบทความนี้
1. ยังไม่ทันจะได้ออกสตาร์ท เหตุการณ์ดราม่าแรกก็เกิดขึ้น เมื่ออยู่ดีๆ รถแข่งทั้งหมด ได้กลับเข้า Pit เพื่อเปลี่ยนยาง หลังจากที่นักแข่งหลายๆ คนนั้น เลือกใช้ยางแบบ Wet Race โดยมีเพียง Jack Miller ที่เลือกใช้ยางสลิคแบบแห้ง จอดรอพร้อมแข่งขันอยู่เพียงคันเดียว และยืนยันที่จะแข่งขันตามกำหนดการ และเวลาที่กำหนด
2. จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้จัดการแข่งขันต้องพักประชุม หาข้อตกลงที่เหมาะสมที่สุด เป็นเหตุให้กรรมการสนามต้องยกป้าย Start Delayed เนื่องจากไม่มีรถแข่งเข้ามาในกริดสตาร์ท ซึ่งทำให้ Jack Miller ที่เลือกใช้ยางสลิคแบบแห้งเพียงคนเดียวไม่พอใจ และเสียโอกาสไป
3. เมื่อได้ข้อสรุปที่ลงตัวแล้ว กรรมการสนามจึงประกาศให้ Jack Miller ที่ควอลิฟายมาในตำแหน่ง Pole Position ออกสตาร์ทในกริดที่ 1 ตามเดิม และให้นักแข่งที่นำรถเข้า Pit ทั้งหมดนั้น ไปออกสตาร์ทในกริดที่ 15 เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หากมีการออกสตาร์ทจาก Pit Lane มีหวังได้เกิดอุบัติเหตุที่โค้ง 1 เป็นแน่ ซึ่งทำให้ Jack Miller แต้มต่อนักแข่งคนอื่นๆ พอสมควร
4. หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดจบลงไปด้วยดี ผ่านการขี่ในรอบ Warm Up Lap มาแล้ว สัญญาณไฟแดงขึ้น รถทุกคนเตรียมออกสตาร์ท แต่ทว่าเหตุการณ์ดราม่าก็บังเกิดอีกครั้ง เมื่อแชมป์โลกคนล่าสุดอย่าง Marc Marquez รถดับ ทำให้เจ้าตัวต้องเข็นสตาร์ท และวนกลับไปจอดออกสตาร์ทในตำแหน่งเดิม ไม่ยอมไปออกสตาร์ทที่ Pit Lane ตามกติกา
5. ซึ่งหลักจากออกสตาร์ทไปเพียงไม่ถึง 1 รอบ Marc Marquez ก็แซง Jack Miller ขึ้นมาเป็นผู้นำได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ทว่าต้องโดนลงโทษ Ride Through จากเหตุการณ์ที่เจ้าตัวไม่ยอมเข้าไปออกสตาร์ทที่ Pit Lane ทำให้ต้องวิ่งผ่าน Pit Lane 1 รอบ จนอันดับตกไปอยู่ที่ 19 ทำให้ Marc Marquez เลือดขึ้นหน้า ไล่ไต่อันดับอย่างไม่สนใจใคร จึงเกิดเป็นเหตุการณ์ดราม่าต่อไป
6. หลังจากที่ Marc Marquez ตกไปรั้งอันดับ 19 เพียงไม่กี่รอบ ก็ทำเวลาขึ้นมาได้ดี แม้จะติดรถคันหน้าที่ขี่ช้ากว่าไปบ้าง แต่ Marquez ก็ไม่ยอมลดละความพยายาม เบียดแซง และทิ่มแทงทุกโค้งที่มีโอกาส ซึ่งจากที่เจ้าตัวขี่ได้เร็วกว่าคนอื่น และไลน์สนามที่แห้งเฉพาะไลน์ ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันกับ Aleix Espagaro จนต้องโดนลงโทษคืนตำแหน่งให้กับ Aleix Espagaro ที่ถูกกระแทก และโดนแซง ซึ่ง Marquez ก็ยอมทำตามแต่โดยดี พร้อมยกมือขอโทษ
7. และนี่อาจเป็นเหตุการณ์ดราม่าที่ถูกจับตามอง และพูดถึงอย่างหนาหูที่สุดของการแข่งขัน MotoGP ในสนามนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อ Marc Marquez ไล่แซง และไต่อันดับจนมาถึงอันดับที่ 7 ซึ่งตามหลังพ่อหมอ Valentino Rossi ที่อยู่ในอันดับที่ 6 และเหลือการแข่งขันอีกเพียง 4 รอบสุดท้าย ด้วยความใจร้อน และความบ้าระห่ำของ Marquez ทิ่มรถเข้าไปในโค้งที่ 13 จนเฉี่ยวชน และกระแทกเข้ากับ Rossi ทำให้รถแข่งทั้ง 2 คัน บานออกจากไลน์ และเป็นเหตุให้ Rossi ล้มลง และพลาดโอกาสเก็บคะแนนสะสม เพราะตกไปอยู่ในอันดับที่ 19 ก่อนที่ Marquez จะหันมายกมือขอโทษ และขี่ไล่เก็บอันดับที่ 5 ต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าทาง Rossi นั้น ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
8. หลังจากที่ Marc Marquez ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ในรอบสุดท้าย เจ้าเด็กระเบิด ก็สามารถบิดแซงนักบิดหน้าหล่อ Maverick Vinales ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 5 และจบการแข่งขันในตำแหน่งดังกล่าว แต่ทว่าจากเหตุการเฉี่ยวชนกับ Rossi ที่เกิดขึ้น ทำให้เข้าถูกบวกเวลาอีก 30 วินาที ทำให้ Marc Marquez ตกไปอยู่ในอันดับที่ 18 และไม่มีคะแนนสะสมในสนามนี้ เช่นเดียวกับ Rossi ที่ต้องจบการแข่งขันในอันดับ 19 และไม่มีคะแนนสะสมไปอย่างน่าเสียดาย
9. หลังจบการแข่งขัน Marc Marquez และทีมงาน Repsol Honda ได้พยายามไปขอโทษ Valentino Rossi ที่พิทของ Movistar Yamaha MotoGP Team แต่ทว่าถูกไล่กลับมา และทาง Movistar Yamaha ไม่ยอมให้อภัย เพราะการขับขี่ที่สุ่มเสียงแบบนี้ อาจเป็นอันตรายต่อนักแข่งคนอื่นได้ ด้าน Valentino Rossi ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของ Marc Marquez ซึ่ง Marc Marquez ก็เข้าใจ และยอมรับผิดแต่โดยดี
10. ดราม่าสุดท้าย เห็นที่จะเป็นความผิดหวังของ Johann Zarco เจ้าของรางวัล Rookie of The Year 2017 ที่ยังคงคว้าชัยไม่ได้ในรุ่น MotoGP แม้จะมีโอกาสขึ้นนำ และอยู่ในอันดับที่ 1 มาหลายต่อหลายสนาม แต่ผลสุดท้ายก็แผ่วปลาย โดน Cal Crutchlow แย่งชัยชนะไปจนได้ในสนามนี้ ซึ่ง Johann Zarco ก็ยังคงต้องหาฟอร์มเก่ง และลุ้นเข้าที่ 1 ในสนามต่อๆ ไปให้ได้
ขอบคุณรูปจาก : motogp.com
