ขบวนตู้คอนเทนเนอร์เคลื่อนย้ายรถแข่ง MotoGP กว่า 30 คัน ส่งตรงถึงสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมลงทดสอบช่วง Winter Test ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์นี้ สนามช้างฯ เผยยึดผังสนามเดิม ยืนยันความพร้อมมีเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของนักแข่ง หลังทำการปรับพื้นที่รันออฟแอเรียใหม่ 4 โค้ง ตามคำแนะนำของ ดอร์น่า สปอร์ต
ความคืบหน้าล่าสุดจาก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ก่อนต้อนรับการทดสอบช่วงวินเทอร์เทต์ของ โมโตจีพี ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันนี้ โดยรถแข่งและอุปกรณ์ต่างๆ ของทีมแข่งในรุ่นพรีเมียร์คลาสถูกเคลื่อนย้ายส่งตรงถึงสนามเป็นที่เรียบร้อย นำโดยรถแข่งจากทีมโรงงานทั้ง 6 ทีม อย่าง Repsol Honda, Movistar Yamaha MotoGP, Ducati Team, Team SUZUKI ECSTAR, Red Bull KTM Factory Racing และ Aprilia Racing Team Gresini รวมถึงทีมอิสระอีกทั้งสิ้น 6 ทีม รวมเป็น 12 ทีมในศึกโมโตจีพี
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด เปิดเผยว่า ความพร้อมของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับการจัดแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “MotoGP” ครั้งแรกในไทย ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561 ล่าสุดมีความพร้อมสมบูรณ์ในทุกองค์ประกอบอยู่แล้ว แต่เพื่อเน้นย้ำถึงความปลอดภัยสูงสุด ทางสนามจึงมีการปรับปรุงบางส่วนของสนาม ก่อนเริ่มรอบวินเทอร์เทสต์ ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์นี้ เราไม่ได้ปรับรูปแบบสนาม ยังมีโค้งเท่าเดิม 12 โค้ง แต่มีการปรับรันออฟแอเรีย (Run-off area) หรือขยายพื้นที่เพื่อรองรับกรณีนักแข่งเกิดอุบัติเหตุหลุดโค้ง เพราะโมโตจีพีแจ้งมา เนื่องจากรถมีการทำความเร็วได้สูงกว่ารายการอื่นที่เราเคยจัดมาทั้งหมด ทางสนามทำการเพิ่มรันออฟในโค้งที่ 1 และ 3 เพราะก่อนถึงสองโค้งนี้เป็นทางตรงยาว คาดว่าความเร็วรถแข่งวันนั้น 330-340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องมีให้เห็นแน่ รวมถึงในโค้งที่ 8 และ 12 ซึ่งเป็นโค้งวัดใจและเป็นซิกเนเจอร์ของสนามเราด้วย ตอนนี้เราพร้อมแล้วเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ครับ ในการทดสอบช่วงวินเทอร์เทสต์ไม่ใช่เพียงการซ้อมใหญ่ของ นักบิด และทีมแข่งในโมโตจีพี แต่จะเป็นการซ้อมใหญ่ของ สนามช้างฯ ทั้งเรื่องความพร้อมสนาม ความพร้อมของทีมงานทุกส่วน กรรมการภาคสนาม ระแบบต่างๆ รวมถึงเป็นการซ้อมรับโมโตจีพีของคนไทย ผมอยากให้ทุกคนมาเห็นกับตาว่านี่คือความยิ่งใหญ่ที่คนไทยต่อสู้จนได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์”
