Honda CB1000R
งาน EICMA 2017 ได้เปิดฉากในรอบสื่ออย่างเป็นทางการ ทาง Honda ได้ทำการเผยโฉมว่าที่รถสปอร์ตเน็กเก็ตคาเฟ่ภายใต้ชื่อ Honda NSC (Neo Sports Café) นั่นคือ All-New Honda CB1000R อย่างเป็นทางการ และยังมาพร้อมกับ All-New Honda CB300R กับ All-New Honda CB125R ร่วมด้วยอีกรุ่น มาชมรายละเอียดที่น่าสนใจของรถทั้ง 3 รุ่นนี้กัน
ทั้ง Honda CB1000R, Honda CB300R และ Honda CB125R โฉมใหม่นี้ มีดีไซน์ที่ถ่ายทอดจาก Honda CB150R ในรูปแบบของรถโมเดิร์นคาเฟ่ ที่สะท้อนเอกลักษณ์และท่วงท่าการขับขี่สไตล์รถจักรยานยนต์คาเฟ่คลาสสิก แต่แฝงไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย และควบคุมรถอย่างมั่นใจจากเทคโนโลยีรถแข่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED ทรงกลม, โช้คอัพหน้าเป็นแบบหัวกลับ (Upside Down), ดิสก์เบรกพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์, ABS G-Sensor, รวมไปถึงการออกแบบตัวรถที่เน้นการรักษาจุดศูนย์ถ่วงให้ใกล้ตัวผู้ขับขี่มากที่สุด เป็นต้น
Honda CB1000R 2018
สำหรับรายละเอียดเฉพาะตัวของแต่ละรุ่น เริ่มจาก Honda CB1000R 2018 มาพร้อมกับเอกลักษณ์ที่ดุดัน สง่างาม และดูหรูรา ด้วยการออกแบบถังน้ำมันพร้อมตราปีกนกสีแดงที่ดูโดดเด่น, เบาะนั่ง 2 ตอนต่างระดับ โดยความสูงเบาะนั่งอยู่ที่ 830 มม. ที่สามารถสับเปลี่ยนใส่ตูดมดเพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น, การ์ดกันหม้อน้ำด้านข้างที่ออกแบบให้ดูเพรียวบางกว่ารถรุ่นอื่นๆ เป็นต้น สำหรับโครงสร้างตัวถังเป็นเหล็กกล้า และมีระยะฐานล้อที่ยาว ดูสง่างาม
ด้านขุมพลังนั้นได้รับการอัพเกรดจากเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 998 ซีซี. จาก "Fireblade" รุ่นใหม่ ซึ่งให้สมรรถนะมากกว่าเครื่องรุ่นเก่าถึง 16% แรงบิดในช่วงกลางเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งให้สมรรถนะสูงสุดถึง 143.4 แรงม้า ที่ 10,500 รอบ/นาที พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิถาพการขับขี่หลายรายการ อาทิ คันเร่งไฟฟ้า (Ride by Wire), โหมดขับขี่ 3 โหมด, ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา พร้อมเสริมระบบ Slipper Clutch และ Quickshifter เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนเกียร์ได้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น
ปิดท้ายด้วยช่วงล่างที่สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียม เริ่มจากโช้คอัพด้านหน้าเป็นแบบหัวกลับจาก Showa ซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัวรถได้มากกว่าเดิม, ดิสก์เบรกพร้อมก้านแบบเรเดียลเมาท์, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, สวิงอาร์มด้านหลังแบบขาเดี่ยวพร้อมโมโนโช้ค และบังโคลนท้าย เป็นต้น
Honda CB300R 2018
ต่อมารุ่น Honda CB300R 2018 เป็นการปรับสเปคและขนาดให้เล็กลง แต่ยังคงบุคลิกและเทคโนโลยีไว้อย่างเต็มเปี่ยม โดยมีทั้งการปรับดีไซน์แฮนด์บาร์ให้ยกสูงเล็กน้อย, ติดตั้งเฟรมรถแบบใหม่ล่าสุด Steel diamond frame, สวิงอาร์มแบบ Stell Plate พร้อมโมโนโช้ค, โช้คอัพหัวกลับ USD ขนาด 41 มม. แบบปรับระดับได้, ดิสก์เบรกแบบลอยตัว พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์จาก Nissin, ระบบ ABS, จอ LCD รวมไปถึงเบาะนั่งสองตอนต่างระดับ ความสูงที่ 799 มม.
Honda CB300R 2018 มาพร้อมกับเครื่องยนต์สูบเดี่ยว ความจุ 286 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้สมรรถนะ 31 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิด 27.5 นิวตัน-เมตร ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ท่อไอเสียออกข้างขวา ถังน้ำมัน 10 ลิตร ปิดท้ายด้วยน้ำหนักตัวรถ 143 กก.
Honda CB125R 2018
และรุ่น Honda CB125R 2018 ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานสุดของตระกูล Honda CB รุ่นใหม่ ซึ่งลดสเปคจาก Honda CB300R 2018 โดยยังคงออพชั่นพรีเมียมแบบจัดเต็ม เช่น เฟรมรถแบบใหม่ล่าสุด Steel diamond frame, สวิงอาร์มแบบ Stell Plate พร้อมโมโนโช้ค, โช้คอัพหัวกลับ USD ขนาด 41 มม. แบบปรับระดับได้, ดิสก์เบรกพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์จาก Nissin, ระบบ ABS, จอ LCD รวมไปถึงเบาะนั่งสองตอนต่างระดับ โดยตัวเบาะจะหนากว่ารุ่น 300 จนมีความสูงมากกว่าเดิมถึง 816 มม. รวมไปถึงชุดท่อไอเสียที่อยู่ใต้ท้องรถ และการดีไซน์แฟริ่งกับการ์ดหม้อน้ำจะต่างจากรุ่น 300 อย่างเห็นได้ชัด
สำหรับขุมพลัง Honda CB125R 2018 จะเป็นเครื่องยนต์ สูบเดี่ยว ความจุ 125 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้สมรรถนะ 13.1 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิด 10 นิวตัน-เมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ถังน้ำมัน 10.1 ลิตร และน้ำหนักตัวรถ 126 กก.
โดย Honda CB ทั้ง 3 โมเดล เตรียมเปิดจำหน่ายให้แฟนๆ ได้สัมผัสเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับในเมืองไทยที่มีลุ้นมาเปิดตัวในอีกไม่นาน
