เขียนโดย: Surasak

เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2567 - 17:44

รีวิว Protomate UltraFusion-X1 หมวกกันน็อกราคา 5 หมื่น

      รีวิวหมวกกันน็อก Protomate ที่คงนิยามได้ว่าเป็นนวัตกรรมหมวกกันน็อก โดยผม ป่าน  Boxzaracing ได้ลองสวมใส่ใช้งานหมวกในรุ่น UltraFusion-X1 (อัลตร้าฟิวชั่น) ซึ่งมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 54,900 บาท และเชื่อว่าใครที่ได้ยินราคาค่าตัว ก็คงต้องคิดในใจอย่างแน่นอนว่าทำไมถึงมีราคาที่สูงขนาดนี้!!

 

 

      เรื่องราคาคงต้องย้อนกลับไปหาคำว่าเป็นนวัตกรรมหมวกกันน็อกนั้นล่ะ เนื่องจากหมวกมีเทคโนโลยีต่างๆ เพิ่มเติมเข้ามาให้ใช้งาน ซึ่งยืนยันได้ว่าในตอนนี้ยังไม่มีหมวกกันน็อกรุ่นไหนในไทยเคยเทคโนโลยีอะไรแบบนี้มีมาก่อนอย่างแน่นอน 

 

 

      ทีนี้หัวใจสำคัญของหมวกกันน็อกคือการป้องกันบรรเทาอาการบาดเจ็บให้กับผู้สวมใส่ ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยของ Protomate UltraFusion-X1 เป็นมาตรฐาน ECE 22.05 กับมาตรฐาน มอก. ที่เป็นของไทย โดยจะขอเพิ่มเติมข้อมูลมาตรฐาน ECE สักเล็กน้อย เพราะนี้คือมาตรฐานความปลอดภัยของหมวกกันน็อกที่จะขายยุโรปนั้นเอง

 

 

     การที่หมวกกันน็อกจะได้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับนี้ ต้องมีการทดสอบความปลอดภัยที่เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด ตรงจุดนี้ใครที่ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยของหมวกกันน็อก Protomate อยากให้สบายใจได้เลย เพราะมันคือมาตรฐานของยุโรปนั้นเอง

 

      ส่วนใครอยากรู้ว่าแบรนด์ Protomate เป็นใครมาจากไหน ก็พูดได้เลยว่านี้เป็นผลงานของคนไทย ทั้งทีมออกแบบ ทีมพัฒนา ก็ล้วนเป็นฝีมือคนไทยทั้งหมด ซึ่งบริษัทได้เปิดตัวหมวกกันน็อกไปในช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา

 

      ด้วยหมวกกันน็อก Protomate รุ่น UltraFusion-X1 มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 54,900 บาท ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะซื้อใส่ใช้งานอย่างแน่นอน ตรงจุดนี้ชวนให้เกิดคำถามต่อไปอีกสเต็ปว่า แล้วใครล่ะที่เหมาะจะซื้อหมวกกันน็อกใบนี้ใช้งาน 

 

 

     โดยส่วนตัวผมมองว่าหมวกกันน็อก Protomate มีความเหมาะสมกับคนที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วชอบทำ Content เกี่ยวกับการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น เพราะหมวกกันน็อกรุ่น UltraFusion-X1 มาพร้อมกล้องบันทึกภาพ 4 จุด (หน้า/หลัง/ข้างซ้าย/ข้างขวา) โดยกล้องหน้าและหลังสามารถบันทึกภาพได้ในระดับ 4K ส่วนกล้องข้างซ้ายและขวาจะมีความชัดในระดับ Full HD

 

      ตรงจุดนี้ทำให้คุณสามารถบันทึกภาพได้ในแบบ 360 องศา และสามารถปรับตั้งค่ากล้องบันทึกภาพผ่านแอปพลิเคชันได้ ไม่ว่าจะเป็นความชัดของกล้อง การเลือกบันทึกภาพว่าจะใช้กล้องไหนในการบันทึกภาพเป็นต้น

 

การบันทึกวิดีโอแบบ 360 องศา

 

      นอกจากนี้หมวกกันน็อกก็มีการติดตั้งลำโพง และไมค์บันทึกเสียงภายในหมวกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอธิบายง่ายๆ ว่าเหมือนมีบลูทูธหมวกกันน็อกให้ใช้งาน คุณจะฟังเพลง จะโทรศัพท์ สามารถทำได้เลย ไม่ต้องไปวุ่นวายหาอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ครบจบที่หนี้ได้เลย

 

      เมื่อมีกล้องที่ไว้บันทึกภาพได้แบบ 360 องศา กับการมีไมค์ที่สามารถใช้บันทึกเสียงได้ ทำให้การใช้งานในเรื่องของ Content การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ การพูดคุยระหว่างการขับขี่ สามารถทำได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้วุ่นวาย และที่สำคัญจะไม่มีความเกะกะเกิดขึ้น หากมีการถ่ายรูปออกมาก็ยังดูสวยกว่าการมีกล้องห้อยอยู่อีกด้วย

 

 

      เนื่องจากหมวกกันน็อกมีทั้งกล้องบันทึกภาพ ไมค์ และหูฟัง ยังไม่เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เรายังไม่ได้พูดถึงในตอนนี้ จุดนี้เองทำให้ต้องมีแบตเตอรี่เป็นจ่ายไฟเลี้ยงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้กล่าวถึงไป โดย Protomate ได้ออกแบบให้มีแบตเตอรี่จำนวน 2 ก้อน (ซ้าย/ขวา) เป็นแบตเตอรี่แบบ Soild State ที่มีขนาดความจุ 4,040 mAh ซึ่งสามารถบันทึกวิดีโอต่อเนื่องได้มากกว่า 2 ชม. 

 

      อีกทั้งแบตเตอรี่สามารถถอดออกจากหมวกกันน็อกเพื่อสลับเป็นแบตเตอรี่ก้อนใหม่ได้ ซึ่งต้องเสริมตรงเรื่องแบตเตอรี่สักเล็กน้อย เพราะแบตเตอรี่แบบ Soild State มีความปลอดภัยสูง เรื่องการโดนกระแทกหรือโดนเจาะทะลุ ตรงจุดนี้แบตเตอรี่จะไม่มีการระเบิดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

ไฟแจ้งเตือน Blind Spot

 

      นอกเหนือจากมีกล้องบันทึกภาพเป็นจุดขายสำคัญแล้ว ตัวหมวกกันน็อกยังมีเทคโนโลยี Blind Spot ที่จะประมวลภาพจากกล้องของหมวกกันน็อก เพื่อแจ้งให้ผู้ใส่ใช้งานรับรู้ถึงวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่มาในจุดอับสายตา เรียกว่าช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการมีกล้องของหมวกกันน็อก ซึ่งระบบจะมีการประมวลผลผ่าน AI ทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำสูง และรองรับการอัปเดตระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ ในอนาคตได้ด้วย

 

      แม้หมวกกันน็อกจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มากมาย แต่ทางผู้ผลิตก็ยืนยันถึงประสิทธิภาพการป้องกันน้ำและฝุ่นว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างแน่นอน เวลาขับลุยฝนก็ไม่ต้องกังวลในจุดนี้

 

 

รีวิวการใช้งานจริง

 

      เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่กำลังหาข้อมูลหมวกกันน็อก Protomate รุ่นนี้อยู่ น่าจะเกิดคำถามขึ้นมา 2 ประเด็นใหญ่ๆ เพียงเท่านั้น ได้แก่ราคาของหมวกที่ค่อนข้างสูง อีกเรื่องก็จะเป็นน้ำหนักของหมวกนั้นล่ะ เพราะน้ำหนักของหมวกอยู่ที่ 1,850 กรัม ใส่ขับขี่แล้วรู้สึกอย่างไร ปวดเมื่อยมากกว่าปกติรึเปล่า

 

      ดังนั้นเลยคุยเรื่องน้ำหนักของหมวกกันก่อนเลย จากที่ลองสวมใส่ขับขี่เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง ตัวผมไม่ได้รู้สึกถึงความเมื่อยล้าหรือความหนักแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งก็มาจากระยะเวลาที่สวมใส่ขับขี่ที่ไม่มากมายสักเท่าไหร่ ซึ่งเชื่อว่าถ้าใส่ขับขี่เป็นระยะเวลามากกว่า 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป น่าจะรับรู้ถึงความแตกต่างในจุดนี้อย่างแน่นอน

 

 

      ทั้งนี้หมวกได้รับการออกแบบเรื่องอากาศที่ไหลผ่านได้ดีมาก ตัวผมไม่ได้รู้สึกร้อนหรืออึดอัดจากการสวมใส่ใช้งาน โดยช่องรับลมเข้ามีอยู่ 3 จุด ได้แก่ คาง, หน้าผาก และ บนศีรษะ ซึ่งทุกจุดสามารถปิดหรือเปิดได้หมด

 

ช่องรับอากาศเข้าภายในหมวก

 

      ทีนี้ต้องพูดถึงเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาในหมวก โดยกล้องจะมีเมนบอร์ดที่ควบคุมการทำของกล้องบันทึกภาพ รวมไปถึงการทำเทคโนโลยี Blind Spot ซึ่งทำให้ต้องมีการติดตั้งพัดลมระบายความร้อนให้กับเมนบอร์ดนั้นเอง และเมื่อพัดลมทำงานระบายความร้อนเมื่อไหร่ หากอยู่ในที่เงียบจะได้ยินเสียงพัดลมอย่างชัดเจน แต่เมื่อออกสู่ท้องถนน เสียงการทำงานของพัดลมจะหายไป เนื่องจากโดนเสียงจากท้องถนนกลบนั้นเอง ตรงจุดนี้ไม่มีผลใดๆ ต่อการใช้งาน

 

      ในส่วนคุณภาพกล้อง การกันสั่น สามารถดูได้ในคลิปรีวิวได้เลย ซึ่งในส่วนของซอฟต์แวร์ของหมวกกันน็อก Protomate จะสามารถอัปเดตตามเหมือนกับมือถือสมาร์ทโฟน ตรงจุดนี้เวลาผู้ผลิตมีการปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์เพื่อให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณก็จะสามารถอัปเดตตามได้อย่างแน่นอน

 

 

      สุดท้ายนี้ใครที่สนใจหมวกกันน็อก Protomate ก็สามารถติดต่อไปได้ที่เพจได้เลย ซึ่งขอยืนยันว่าสิบปากว่าไม่เท่ากับได้ลองสวมใส่ใช้งานจริง และที่สำคัญทางบริษัทก็มีโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย แถมยังสามารถผ่อนชำระได้อีกด้วย โดยข้อมูลตรงจุดนี้สามารถติดต่อได้ที่เพจ Protomate เท่านั้น

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook