หลังจากที่มี Teaser หลุดมาสักพัก ล่าสุด Triumph ก็ได้ทำการเปิดตัว Triumph Tiger 900 ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ โดยครั้งนี้จัดว่าโมเดลนี้เป็น All New เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ใหม่หมดทำให้ตัวรถมีความกระชับ คล่องแคล่วขึ้น พร้อมหน้าตาสุดเฉียบคม ดุดันในแบบไอ้เสือพันธุ์ลุย พร้อมการยกระดับสมรรถนะขึ้นเพื่อความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้งาน
โดยการเปลี่ยนโมเดลของตระกูล Tiger ครั้งนี้ Triumph ได้มีการเปลี่ยนรหัสห้อยท้ายใหม่ทั้งสองรุ่น เริ่มที่ในรุ่นลุยทางฝุ่นจากเดิมที่เป็น Triumph Tiger 800 XC และ Triumph Tiger 800 XCX จะถูกเปลี่ยนเป็น Triumph Tiger 900 Rally และ Triumph Tiger 900 Rally Pro ตามด้วยในรุ่นทางเรียบจากเดิมที่เป็นรุ่น Triumph Tiger 900 XR และ Triumph Tiger 900 XRX จะถูกเปลี่ยนเป็น Triumph Tiger 900 GT และ Triumph Tiger 900 GT Pro ที่จะมีการติดตั้งอ๊อปชั่นการใช้งานที่คุ้มค่าและลงตัวในแต่ละรุ่นอย่างเหมาะตามมาตรฐาน
เรียกได้ว่าการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ของ Triumph Tiger 900 ทั้งโมเดล GT และ Rally นั้น ได้ถูกอัพเกรดมาตรฐานให้ตัวรถมีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเฟรมใหม่รวมไปถึงซับเฟรมด้านท้ายที่ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงถึง 5 กิโลกรัมตามด้วยถังน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ถึง 20 ลิตร เพื่อความเหมาะสมสำหรับสายทัวร์ริ่ง ในขณะที่ช่วงล่างก็ได้มีการอัพเกรดในตัวท็อปอย่าง GT Pro ที่มีการติดตั้งโช้คไฟฟ้า Marzocchi และปั๊มเบรกหน้า Brembo Stylema Monobloc อีกด้วย ทำให้การใช้งานสมกับเป็นรุ่น Pro อย่างแท้จริง
ต่อเนื่องด้วยระบบเทคโนโลยีที่อัดแน่นมาเต็มลำไม่ว่าจะเป็น Cornering ABS ทำงานร่วมกับระบบประมวลผล IMU 6 แกน และ Traction Control ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์วัดแรงเฉื่อยอีกที โดยระบบนี้ไม่มีการติดตั้งในรุ่นเริ่มต้น แต่ในด้านของโหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น Rain, Road, Sport, Rider, Off-Road, Off-Road Pro ที่พร้อมรองรับการใช้งานทุกสภาพถนน และ Quick Shifter แบบ Up-Down ตอบโจทย์สำหรับสายซิ่งได้ในระดับหนึ่ง โดยระบบทั้งหมดจะแสดงผ่านทางหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน ที่จะทำหน้าที่แสดงค่าต่างๆ ของตัวรถ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการเซอร์วิสต่างๆ อย่างสะดวก
ส่งท้ายในส่วนของขุมพลังบล็อคใหม่ 3 ลูกสูบ ขนาด 888 ซีซี. รองรับมาตรฐาน Euro5 ที่อัพเกรดความแรงและจัดจ้านขึ้น ในส่วนแรงบิดเพิ่มขึ้นประมาณ 5% โดยมีแรงบิดสูงสุด 87 นิวตัน-เมตรที่ 7,250 รอบ พร้อมกับพละกำลังแรงม้าที่จัดจ้านขึ้น 9% โดยพละกำลังสูงสุด 95.2 แรงม้า ที่ 8,750 รอบ และปรับลำดับการจุดระเบิดใหม่เป็น 1-3-2 ทำให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ดีขึ้น
ในส่วนของข่าวการเข้ามาเปิดตัวในไทยนั้น คาดว่าคงจะนำเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัสเร็วๆนี้ เพราะหลายๆ ค่ายคู่แข่งเริ่มเปิดตัวกันอย่างไม่ยั้งมือกันแล้ว สำหรับสาวก Triumph สามารถติดตามการอัพเดทข่าวสารได้ที่ www.BoxzaRacing.com สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน...สวัสดีครับ
