Royal Enfield ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก จัดงาน คาเฟ่ เรซเซอร์ ไนท์ ไรด์ (Café Racer Night Ride) ครั้งแรกในเมืองไทย งานครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการนำวัฒนธรรมของชาวอังกฤษผู้รักในการแต่งรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดกลับมาอีกครั้ง โดยในงานจะมีเจ้าของ Continental GT มากว่า 100 คน ร่วมกันขับขี่ไปบนท้องถนนยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร
Café Racer Night Ride ที่จัดขึ้นครั้งแรกในเมืองไทย เป็นกิจกรรมที่เจ้าของ Continental GT ร่วมกันขับขี่ไปบนท้องถนนของกรุงเทพฯ ชื่นชมบรรยากาศและแสงไฟยามค่ำคืนไปด้วยกัน จากจุดเริ่มต้นที่Royal Enfield Store ทองหล่อ และจบลงที่การรวมตัวกันที่ร้านบุดด้าบาร์ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์การขับขี่ของมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง (Pure Motorcycling) พบปะสังสรรค์และทำความรู้จักกับกลุ่มคนที่รักสิ่งเดียวกันในรูปแบบวัฒนธรรม Café Racer ของชาวอังกฤษ
Royal Enfield มุ่งมั่นและสัญญาที่จะพัฒนากลุ่มผู้รักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยด้วยการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และกิจกรรม Café Racer Night Ride ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเรา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Café Racer Night Ride จะหลอมรวมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของผู้ที่หลงใหลการขับขี่มอเตอร์ไซค์ในเมืองไทย
มร.วิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Royal Enfield กล่าวว่า “วัฒนธรรม Café Racer เป็นมากกว่ากลุ่มนักบิดมอเตอร์ไซค์ แต่จิตวิญญาณหลักของวัฒนธรรมนี้อยู่ที่เครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์เองด้วย ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีสีสันยามค่ำคืน รวมกับอิทธิพลจากวิถีร็อกแอนด์โรลของยุค 50 และ 60 และความชื่นชอบในการแต่งรถของยุคปัจจุบัน ทำให้เมืองไทยเป็นหนึ่งในเมืองที่เหมาะที่สุดที่จะปลุกวัฒนธรรม Café Racer ให้กลับมาอีกครั้ง”
“Continental GT 650 คือ ผลงานจากความสำเร็จที่มีต้นแบบมาจาก Continental GT 250 ในยุค 60 และ ย้อนกลับไปในยุค 60 Royal Enfield ถือเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ออกแบบรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ Café Racer (Continental GT 250) แบบสมบูรณ์จากโรงงาน จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลให้ Café Racer ถูกดึงไปเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของคนรักมอเตอร์ไซค์ในหลายๆประเทศทั่วโลก อีกทั้ง Continental GT 650 ยังมีรูปลักษณ์ที่ดุดันดั่งนักรบสปาร์ตัน เป็นการเชื่อมกันระหว่างความคลาสสิกและความโมเดิร์น เหมาะสำหรับขับขี่บนท้องถนนของเมืองใหญ่ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Ton of Fun’ หรือ ที่สุดของความสนุกจากการขับขี่ หลังจากที่เราได้เปิดตัว Continental GT 650 เราได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราจัดกิจกรรมต่างๆรวมถึง Café Racer Night Ride ในประเทศไทย ที่เจ้าของ Continental GT สามารถมารวมตัวกันและขับขี่ไปด้วยกัน”
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของวัฒนธรรม Café Racer
- Café Racer เป็นวัฒนธรรมที่เรียกได้ว่ามีอิทธิพลในวงการมอเตอร์ไซค์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน จนหลายคนถึงกับบอกว่าจะไม่มีอะไรเหมือนหรือเทียบเท่า Café Racer ได้อีก
- Café Racer เกิดขึ้นครั้งแรกบนถนนของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในยุค 1950 พัฒนาและหลอมรวมจากความหลงไหลในความเร็วเข้ากับวิถีร็อกแอนด์โรล จนในที่สุดได้ถูกนำกลับมาอีกครั้งในทุกวันนี้
- กลุ่มวัยรุ่นจะรวมตัวกันเพื่ออวดโฉมรถมอเตอร์ไซค์แต่งของตัวเองโดยเน้นไปที่ความเบา ปรับแต่งเครื่องให้แรงขึ้น และพัฒนาการตอบสนองของแฮนด์บังคับ พวกเขาจะรวมตัวกันตามคาเฟ่ และเมื่อมีอีกกลุ่มเข้ามาท้าทาย ทุกคนจะออกไปที่ถนนแล้วประชันความเร็วเพื่อพิสูจน์ความเป็นหนึ่ง
- เป้าหมายของนักบิด Café Racer ในยุค 50 คือสามารถในการเร่งความเร็วให้ถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมงให้ได้เร็วที่สุด จนเป็นที่มาของคำว่า เดอะ ตัน (The Ton) หนึ่งในร้านคาเฟ่แรกๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม Café Racer มีชื่อว่า เอส คาเฟ่ (Ace Café)
- ตัน อัพ บอยส์ (Ton-up Boys) และ ร็อกเกอร์ (Rockers) เป็นชื่อเรียกของคนในกลุ่มนี้ พวกเขาจะใส่ชุดหนัง พร้อมกับมอเตอร์ไซค์ทรงสปาร์ตันที่มีแทงค์แบบยาว แล้วพวกเขาจะแข่งกันจากคาเฟ่หนึ่งสู่คาเฟ่หนึ่ง อันเป็นที่มาของคำว่า “Café Racer”
