Jorge Lorenzo ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่าการแข่งขัน MotoGP ครั้งแรกของเขาในฐานะนักแข่งสังกัดทีม Honda ที่กาตาร์นั้นถูกทำลายด้วยโชคชะตา โดยหลังจากที่ Lorenzo สามารถโชว์ผลงานมาเป็นอันดับที่ 2 ในวันแรกของการซ้อมก่อนลงแข่งขัน แต่ทุกอย่างกลับแย่ลงในเช้าวันเสาร์ที่ Lorenzo นั้นเกิดพลาดท่าล้มลงในช่วง FP3 ในโค้งที่ 6 ก่อนจะล้มลงอีกครั้งในโค้งที่ 2 นั่นทำให้เขาต้องย้ายไปออกสตาร์ทในกริดสตาร์ทที่ 15 ก่อนที่ตัวรถนั้นจะมีปัญหากับคลัทช์ทำให้อันดับนั้นร่วงลงไปถึงอันดับ 20 ก่อนที่จะไต่อันดับขึ้นมาเก็บ 3 คะแนนประเดิมฤดูกาล 2019 จากการจบแข่งขันในอันดับที่ 13
"การที่ผมล้มลงในวันเสาร์ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เพราะว่าในช่วง FP1 เรานั้นทำผลงานได้ค่อนข้างยอดเยี่ยมมาก ซึ่งหลังจากล้มลง เราไม่สามารถเร็วได้เหมือนอย่างที่วันแรก และถ้าหากผมไม่ล้มลง ผมอาจจะเข้าไปสู่รอบ Q2 ไม่แน่ว่าอาจจะออกสตาร์ทในแถวที่ 2 หรือ 3 ซึ่งมันจะทำให้ทุกสิ่งนั้นอาจจะเปลี่ยนไป นอกจากนี้เรายังมีปัญหาในเรื่องของคลัทช์มาตั้งแต่เมื่อวานนี้และในช่วงวอร์มอัพยาวไปจนถึงใน 3-4 รอบแรกที่คลัทช์เรานั้นมีปัญหา ผมต้องทำการเบาคันเร่งในบางส่วนของสนามเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะทำคลัทช์ไหม้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตกลงจากอันดับที่ 16 ไปรั้งอยู่ในอันดับที่ 20 และกลายเป็นเรื่องยากที่จะไล่อันดับกลับมา ผมจึงมองว่าด้วยโชคร้ายเพียงเล็กน้อยมันก็สามารถทำให้เราไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงของเราออกมาได้"
"สำหรับการแข่งขันในอาร์เจนติน่าแน่นอนว่าข้อมือของผมและส่วนอื่นๆของร่างกายน่าจะกลับมาสมบูรณ์มากกว่านี้ แต่ผมจำเป็นต้องได้รับการตรวจหัวไหล่เพราะว่าผมรู้สึกว่ามันมีอาการเจ็บในบางครั้งที่ขยับในบางท่า แต่ผมหวังไว้ว่ามันจะเป็นแค่ผลกระทบจาการล้มเท่าไร และหวังว่าไม่น่าจะมีอะไรหัก ในอาร์เจนติน่าผมจะนำประสบการณ์ที่ผมมีบนรถแข่งมาปรับใช้มากขึ้น และหวังว่าระบบคลัทช์ของเราจะไม่มีปัญหา ซึ่งถ้าหากผมไม่โชคร้ายอีก ผลงานการแข่งขันน่าจะออกมาได้ดีแน่นอน" Jorge Lorenzo ให้สัมภาษณ์
