BMW Motorrad ประเทศไทย ปลุกจิตวิญญาณของเหล่านักบิดให้สนุกกับการผจญภัยอีกครั้ง ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นใหม่ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับไบค์เกอร์ส่งท้ายปี 2018 รับปีใหม่ 2019 ด้วยมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากตระกูล GS สองรุ่นได้แก่ BMW F 750 GS กับ BMW F 850 GS เอ็นดูโร่ - ทัวร์ริ่ง F-Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น และ BMW C 400 X สกู๊ตเตอร์ Urban Mobility ที่ครบครันทั้งความสะดวกสบายและความคล่องตัวในการขับขี่ทุกๆ วัน
มร. มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย
มร. มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า "วันนี้ เรากลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ใหม่ถึงสองรุ่น ได้แก่ BMW F 750 GS และ BMW F 850 GS ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะ เพื่อสร้างยนตรกรรมสองล้อที่สามารถมอบประสบการณ์ในการขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ ผสานทั้งความปราดเปรียวบนท้องถนน ความสะดวกสบายสไตล์ทัวร์ริ่ง และดีเอ็นเอของนักผจญภัยบนเส้นทางออฟโรด ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้เป็นรุ่นล่าสุดที่ประกอบขึ้น ณ โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง และเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพในการผลิตที่แข็งแกร่งของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังเสริมความหลากหลายให้กับทับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับขับขี่ในเมืองอย่างคล่องตัวและสะดวกสบายกับ BMW C 400 X ที่สามารถพาคุณฝ่าฟันการจราจนในกรุงเทพฯ ได้อย่างสนุกสนานและง่ายดาย"
BMW F 750 GS ใหม่
สมาชิกรุ่นล่าสุดในตระกูล GS ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสิงห์นักบิดขาลุยผู้หลงไหลในจิตวิญญาณและรูปลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ ด้วยที่นั่งที่ได้รับการออกแบบให้ต่ำลง ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียงขนาด 853 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ พกพากำลังสูงสุด 77 แรงม้า (57 กิโลวัตต์) ที่ 7,500 รอบ/นาที สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐาน EU4 และได้รับการพัฒนาให้ลดแรงสั่นสะเทือนด้วยเพลาคู่พร้อมระบบ Counterbalance ทำงานคู่กับเกียร์ 6 สปีด ที่อยู่ด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่
BMW F 750 GS มาพร้อมโครงสร้างเฟรมเหล็กกล้าแบบ Monocoque เพื่อความแข็งแกร่งในการต้านทานแรงบิดและการขับขี่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ระบบกันสะเทือนล้อหน้าและล้อหลังสามารตอบสนองได้อย่างฉับไว ด้วยโช้คแบบเทเลสโคปิก และสวิงอาร์มคู่อลูมิเนียม พร้อม Central Spring Strut ที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงด้วยระบบไฮดรอลิก อีกทั้งยังสามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานด้วยโหมดการขับขี่ 'Rain' และ 'Road' ปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบเบรก ABS มาตรฐานของ BMW Motorrad และระบบ ASC (Automatic Stabiliy Control) ทั้งนี้ ในรุ่น Exclusive Style ยังมาพร้อมกับระบบ Riding Modes Pro, Dynamic Traction Control (DTC), Dynamic ESA และ ABS Pro
เส้นสายการดีไซน์ BMW F 750 GS ใหม่ ตอกย้ำถึงความปราดเปรียวและความแข็งแกร่งของตระกูล GS พร้อมสะท้อนความล้ำด้วยไฟหน้า LED แบบใหม่ ล้ออลูมิเนียมขนาด 19 - 17 นิ้ว และมีสีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Austin Yellow Metallic และ Stereo Metallic Matt (Exclusive Style)
BMW F 850 GS
ผสานเอกลักษณ์ของทัวร์ริ่งไบค์เข้ากับสมรรถนะแบบออฟโรดอันเหนือชั้นไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี. เช่นเดียวกับ BMW F 750 GS แต่ได้รับการปรับรุงเพื่อรีดสมรรถนะสูงสุด กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (70 กิโลวัตต์) ที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที พร้อมระบบควบคุมไอเสียแบบ Closed-Loop ชนิด 3 ทาง Catalytic Converter ตามมาตรฐาน EU4
เฟรมโครงสร้างได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เสริมประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนด้วยโช้คอัพหัวกลับและสวิงอาร์มคู่อลูมิเนียม เสริมความมั่นใจในการขับขี่ยิ่งขึ้นด้วยโหมดขับขี่ 'Rain' และ 'Road' สำหรับรุ่น Exclusive Style มาพร้อมโหมดขับขี่ Riding Modes Pro ที่ได้เพิ่มโหมด Dynamic, Enduro และ Enduro Pro ร่วมกับเทคโนโลยีอันทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC), Keyless Ride และ ABS Pro
BMW F 850 GS ได้รับการดีไซน์ใหม่ ถ่ายทอดทั้งความโฉบเฉี่ยวและความล้ำยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้า LED แบบใหม่ ลุยพื้นผิวออฟโรดด้วยล้อซี่ลวดขนาด 21 - 17 นิ้ว และมีสีตัวถังให้เลือกทั้ง Light White Uni (Railye Style) และสี Pollux Metallic Matt (Exclusive Style)
BMW C 400 X ใหม่ Limited Edition ราคา 399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ผสมผสานเสน่ห์และความคล่องตัวของสกู๊ตเตอร์เข้ากับความหรูหราตามแบบฉบับของ BMW Motorrad เพื่อมอบความสะดวกสบายในการฟันฝ่าจราจรภายในเมืองและความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วย้ครื่องยนต์หนึ่งสูบที่พัฒนาขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะ ให้พละกำลังสูงสุด 34 แรงม้า (25 กิโลวัตต์) ลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ CVT และสวิงอาร์มที่ลดการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี ส่วนระบบ Automatic Stability Control (ASC) ที่ช่วยให้ตัวรถมั่นคง ปลอดภัยขณะเร่งความเร็ว แม้บนพื้นถนนที่เปียกลื่น เฟรมเหล็กกล้าของ BMW C 400 X ติดตั้งอยู่ระบบช่วงล่างที่ใช้โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกและโช้คหลังแบบสปริงสตรัทคู่ พร้อมดิสก์เบรกคู่ล้อหน้า กับดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง เติมเต็มความมั่นใจด้วยระบบ ABS
ด้านการดีไซน์ของ BMW C 400 X เปี่ยมไปด้วยความล้ำสมัยในรูปแบบมอเตอร์ไซค์ Urban Mobility จาก BMW Motorrad ที่ผสมผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดดเด่นจากด้านหน้าด้วยไฟหน้า LED ในรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมแผงกันลมในขนาดที่พอดี เข้ากับตัวถังที่มีสีให้เลือกทั้ง Zenith Blue Metallic และ Alpine White ส่วนช่องเก็บของแบ่งพื้นที่ภายในสองส่วน พร้อมช่องเก็บหมวก Flexcase ที่พับเก็บอยู่ใต้เบาะตอนเดียว และมาพร้อม Connectivlty ด้วยหน้าจอ TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว กับ BMW Connected Ride ที่สามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อกผ่าน Bluetooth ได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย ทำให้ BMW C 400 X ใหม่ตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวัน และสามารถรองรับการเดินทางไกลได้อีกด้วย
พิเศษสุด สำหรับรุ่น Limited Edition มาพร้อมอุปกรณ์เสริมพิเศษ ได้แก่ Keyless Ride, ไฟส่องกลางวัน Daytime Riding Lights, ระบบทำความอุ่นทั้งตัวเบาะนั่งและที่อุ่นมือจับแฮนด์ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 26 คันเท่านั้น
และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของรถมอเตอร์ไซค์ทุกคัน ทาง BMW Motorrad พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จับจองเป็นเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2560 รับฟรี BMW Motorrad Service Inclusiv (BMSI) ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาเบื้องต้นตามมาตรฐานเป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 30,000 กม. และ BMW Motorad Extended Warranty ที่ขยายเวลารับประกันเพิ่มขึ้นเป็น 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
