เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายที่มีข่าวคราวการเคลื่อนไหว และการอัพเดทโมเดลใหม่แบบวันต่อวันเลยก็ว่าได้สำหรับค่ายปีกนก Honda ซึ่งหลังจากที่ทาง BoxzaRacing ได้นำเสนอข่าวคราวของว่าที่รถ Super Bike V4 กันไปสักระยะ ล่าสุดทาง Honda ได้เผยโฉม New CB1000R รถมอเตอร์ไซค์ Naked Bike ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นอมตะเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของ Honda Super 4 ที่จะมาเป็นคู่ต่อกรโดยตรงกับ Yamaha MT-10, Kawasaki Z1000, KTM 1290 Super Duke R และ Aprilia’s Tuono V4 1100
สำหรับดีไซน์ของ New CB1000R ได้รับการออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ที่ผสานความเป็นอมตะในเอกลักษณ์แบบเฉพาะของ Honda ที่โด่งดังมาหลายสิบปีอย่าง CB400 หรือที่เราๆ ท่านๆ เรียกกันว่า Super 4 โดยด้านหน้ามาพร้อมกับไฟหน้าทรงกลมโคมเดี่ยว, หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล, แฮนบาร์, ถังน้ำมันทรงเหลี่ยมที่ออกแบบให้มีช่องดักลมขนาดใหญ่, เบาะนั่งปาดยกระดับผู้ซ้อนท้าย และใช้บังโคลนหลังแบบกันดีดที่ล้อหลัง
ระบบช่วงล่างของ New CB1000R
สำหรับระบบช่วงล่าง และเครื่องยนต์ของ New CB1000R คาดว่าจะใช้แบบเดียวกันกับ Honda CBR 1000RR Fireblade ใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ Upside Down ด้านหลังแบบ Mono Shock ปั้มเบรคหน้าแบบ Radial Mount พร้อมออพชั่นต่างๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการยกล้อ, โหมดขับขี่ที่มีให้เลือกทั้ง Track/ Sport/ Comfort และ User Mode, ระบบ IMU (Inertial Measurement Unit) จาก Bosch, ระบบควบคุมการทรงตัว HSTC (Honda Selectable Torque System) ฯลฯ
เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 999.8 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว
ส่วนด้านเครื่องยนต์จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 999.8 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ 76 x 55.1 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ที่มาพร้อม Quickshifter ให้สมรรถนะสูงสุด 189 แรงม้า ที่ 12,500 รอบ/นาที แรงบิด 81.79 ปอนด์/ฟุต ที่ 10,500 รอบ/นาที ที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro4 เป็นที่เรียบร้อย แต่อาจจะมีการปรับจูนในส่วนของเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อตอบสนองในการขับขี่ในรูปแบบ Naked Bike มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้แรงม้าอาจจะลดลงเล็กน้อย แต่จะได้รับแรงบิดที่เร้าใจมากยิ่งขึ้น
ช่วงล่างด้านท้าย
ซึ่งหลังจากนี้คงจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า New CB1000R จะมีกำหนดการการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงใด ซึ่งจากรายงานในประเทศญี่ปุ่นระบุว่า จะมีการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 และจะจำหน่ายจริงในปี 2018 ซึ่งทาง BoxzaRacing จะติดตามการอัพเดทให้ทุกความเคลื่อนไหวต่อไป
ขอบคุณภาพ: www.amcn.com.au