Kawasaki ZX-10R VS Ducati 959 Panigale ศึกแห่งศักดิ์ศรีของ Sport Bike ต่างสัญชาติ

Kawasaki ZX-10R VS Ducati 959 Panigale ศึกแห่งศักดิ์ศรีของ Sport Bike ต่างสัญชาติ

          ในช่วงเวลานี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วว่ากระแสรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือ มอเตอร์ไซค์ BigBike ในบ้านเรา กำลังได้รับความนิยมและมีพัฒนาการที่จะเติบโตไปอย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้นี้ เห็นได้ชัดจากวงการมอเตอร์สปอร์ตที่ได้มีการจัดแข่งขันระดับโลกอย่าง SBK Superbike FIM World Championship ณ สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านมา ก็สามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากระแสรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือ มอเตอร์ไซค์ BigBike ได้รับความนิยมมากเพียงใด ดังนั้นทาง BoxzaRacing จึงไม่รอช้า ที่จะนำรถ มอเตอร์ไซค์ BigBike ในสไตล์ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) จาก 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ของโลก มาประชันกันแบบให้เห็นทุกซอกทุกมุม

          ในวันนี้ BoxzaRacing จะขอพาชาวไบค์เกอร์ทั้งหลายมาพบกับการประชันหน้ากันของเจ้ารถ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) ระหว่าง Kawasaki ZX-10R ที่มีดีกรีแชมป์ SBK Superbike FIM World Championship สนามล่าสุด จะมาทำการ Battle กับ Ducati 959 Panigale น้องใหม่ล่าสุดของ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงจุดเด่น และความแตกต่าง ว่าท้ายที่สุดแล้วรุ่นใดจะมีความคุ้มค่า และน่ามีไว้ในครอบครองมากกว่ากัน

          เรามาเริ่มกันที่ค่ายตั๊กแตนเขียวกันก่อนเลย โดยส่งเจ้ายักษ์เขียว Kawasaki ZX-10R รถสปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่ประจำค่าย ที่กำลังได้รับความรับความสนใจจากชาวไบค์เกอร์สายโหดอยู่ไม่น้อยในเวลานี้ ด้วยรูปร่างอันบึกบึนทรงพลัง และความเท่ที่ถูกจัดไว้ให้อย่างลงตัว ทำให้มันกลายเป็นรถบิ๊กไบค์ในฝันของชาวสองล้อหลายๆ คนอย่างไม่ต้องสงสัย

          สำหรับรูปโฉมภายนอกของเจ้ายักษ์เขียว Kawasaki ZX-10R 2016 ได้ถูก Redesign ใหม่ โดยยังคงรูปแบบของ ZX-10R โมเดลเดิมเอาไว้ แต่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาในรายละเอียดให้ดีขึ้นกว่าเดิม แฟริ่งหน้าปรับปรุงใหม่พัฒนาให้การไหลผ่านของอากาศ (Aerodynamics) ดีขึ้น, วินชิลด์ขนาดใหญ่ขึ้น, เบาะนั่งกว้างขึ้น, ดีไซน์ด้านท้ายที่ดูแหลมคมขึ้น, Handbar ใกล้ตัวผู้ขี่มากยิ่งขึ้นส่งผลให้น้ำหนักลงไปที่ล้อหน้ามากขึ้น, สวิงอาร์มที่ได้รับการพัฒนาให้ยาวขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วถึง 15.88 มม. พร้อมดีไซน์ตัวบังโคลนหน้าให้สามารถรับและรีดแรงลมเข้าสู่ตัวหม้อน้ำได้อย่างพอดิบพอดี และเฟรมแบบ Twin-Spar Aluminum ส่วนน้ำหนักตัวของเจ้ายักษ์เขียวจอมโหดคันนี้อยู่ที่ 204 กิโลกรัม สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 17 ลิตร

          สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์ของมันมาพร้อมกับหน้าจอ Full Digital LED ซึ่งจะมีลูกเล่นต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งตัวแสดงความเร็ว และรอบของเครื่องยนต์ รวมถึงตัววัดระยะทางเมื่อยามออกทริป แบ่งเป็น A และ B นอกจากนั้นก็จะมีตัวบอกตำแหน่งเกียร์ นาฬิกา และแสดงผลการตั้งค่าของระบบ Traction Control พร้อมเสริมความนิ่งในการขับขี่ด้วยกันสะบัดจาก Ohlins ที่มีติดตัวมาให้อีกด้วย

          ถัดลงมาชมในส่วนของช่วงล่างกันบ้าง Kawasaki ZX-10R ใช้โช๊คอัพด้านหน้าจาก Showa Balance Free Fork Upside Down ขนาด 43 มม. พร้อมด้วยกระปุกโช๊คแยกสำหรับการปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้แบบครบครัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากระบบที่ใช้ในสนามแข่ง WSBK เลยทีเดียว และโช๊คอัพด้านหลังเป็นแบบนอนจาก Showa Balance Free Rear Cushion (BFRC) สามารถปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้เช่นกัน

          ในส่วนของระบบเบรค Kawasaki ZX-10R จัดชุดใหญ่ให้แบบครบเซ็ต ระบบเบรคด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์คู่ขนาด 330 มม. พร้อมระบบเบรค ABS ปั๊มจาก Brembo M50 Monobloc และเบรคหลังใช้เป็นจานดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. ปั๊มจาก Nissin ลูกสูบเดี่ยวอลูมิเนียม นอกจากนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเสริมทัพความล้ำสมัยย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Sport-Kawasaki Traction Control, Intelligent anti-lock Brake System, Launch Control Mode, Quick Shifter, Engine Brake Control 

          มาต่อกันที่ขุมพลังของเจ้ายักษ์เขียวกันบ้าง โดย Kawasaki ZX-10R ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง โดยมีขนาดกระบอกสูบอยู่ที่ 998 ซีซี. DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังอัด 13.0:1 ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 76.0×55.0 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ รีดแรงม้าสูงถึง 179 ตัว ที่ 13,000 รอบ/นาที (Specs ยุโรปอยู่ที่ 210 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที หลังจากติดตั้ง Ram Air) ด้านแรงบิดอยู่ที่ 113.5 นิวตัน-เมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที

          สำหรับราคาจำหน่ายของเจ้ายักษ์เขียว Kawasaki ZX-10R สปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่จากค่ายตั๊กแตนเขียว ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงเกินไป โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 679,000 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่สามารถสานฝันให้แก่เหล่าไบค์เกอร์ที่ต้องการขับขี่รถตัวพันได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

          เรามาต่อกันที่ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่ของโลกกันบ้าง กับค่าย Ducati ที่การ Battle ในครั้งนี้ส่งเจ้า 959 Panigale รถ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) น้องใหม่ล่าสุดของทางค่าย ที่ได้รับการพัฒนารูปโฉมใหม่ให้มีความสปอร์ตเร้าใจมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเฟรมแบบ Monocoque Aluminium ไฟหน้าใหม่ทรงดุดันคล้ายตาเหยี่ยว พร้อมชุดแฟริ่งแบบเต็มๆ ที่ให้อารมณ์สปอร์ตเต็มอารมณ์ กระจกมองข้างมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว แฮนด์แบบจับคู่กับโช๊คอัพ ที่ให้ท่าทางการขับขี่แบบสปอร์ต เบาะนั่งแยก 2 ตอนอย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วยสวิงอาร์มคู่แบบ Aluminium โดยตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 200 กิโลกรัม และมีความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่งที่ 830 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 17 ลิตร

          สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์ของ Ducati 959 Panigale มาพร้อมกับหน้าจอ Full LCD Display ซึ่งจะมีลูกเล่นต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งตัวแสดงความเร็ว และรอบของเครื่องยนต์ แบบดิจิตอล พร้อมเสริมความนิ่งในการขับขี่ด้วยกันสะบัดจาก Ohlins ที่มีติดตัวมาให้อีกด้วย ผสานกับเทคโนโลยี 3 โหมดการขับขี่ Race Mode, Sport Mode และ Wet Mode เพื่อให้ควบคุมตัวรถได้อย่างง่ายดายในทุกระดับความเร็ว

          สำหรับระบบช่วงล่างของ Ducati 959 Panigale มาพร้อมกับระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบโช๊คอัพหัวกลับ Upside Down ของ Showa ขนาด 43 มม. ที่สามารถปรับระดับได้ตามโหมดการขับขี่ ส่วนระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบโช๊คอัพเดี่ยวสวิงอาร์มคู่แบบ Aluminium ระบบเบรคด้านหน้ามาพร้อมกับจานคู่ขนาด 320 มม. แบบ Semi-Floating จับคู่กับปั้มเบรค Brembo Monobloc M4.32 แบบ 4 สูบ พร้อมระบบ ABS และเบรคหลังมาพร้อมกับจานเบรคขนาด 245 มม. จับคู่กับปั้มเบรค Brembo แบบ 2 สูบ พร้อมระบบเบรก ABS

          สำหรับขุมพลังของ Ducati 959 Panigale มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ L Twin 8 วาล์ว ขนาดความจุ 955 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ 100 × 60.8 มม. กำลังอัด 12.5:1 ระบายความร้อนด้วยน้ำ จุดระเบิดผ่าน Mitsubishi Electronic Fuel Injection System ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด พร้อมเทคโนโลยี Ducati Quick Shift (DQS) ระบบคลัทช์แบบ Slipper และ Self-servo ทำงานร่วมกับ Hydraulic Control โดยสามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ถึง 157 แรงม้า ที่ 10,500 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 107.4 นิวตัน-เมตร ที่ 9,000 รอบ/นาที ระบายไอเสียผ่านชุดท่อไอเสียดีไซน์ใหม่น้ำหนักเบาซึ่งผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ Euro 4

          สำหรับราคาจำหน่ายของรถ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) น้องใหม่ล่าสุดจากค่าย Ducati อย่าง 959 Panigale คันนี้ ถูกตั้งไว้ที่ 749,900 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างจับต้องยากสักเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับสมรรถนะและเทคโนโลยีที่จัดให้แล้ว ก็ยังมีความคุ้มค่าสมราคาอยู่เหมือนกัน

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลของ Kawasaki ZX-10R กับ Ducati 959 Panigale

Comment

          สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจ และหมายปองรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ในสไตล์ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) ใน 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki ZX-10R และ Ducati 959 Panigale ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบกันไปในคนละด้าน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และสไตล์การขับขี่คนแต่ละท่าน หากใครที่ชื่นชอบความเร็วแบบเต็มขั้น รูปทรงที่มีความเป็นสปอร์ตผสานกับความบึกบึน รวมไปถึงราคาค่าตัวที่เอื้อมถึงได้ง่าย Kawasaki ZX-10R เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนใครที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์ Sport Bike (สปอร์ตไบค์) แบบเต็มอารมณ์ ผสานกับความภาคภูมิใจในภาพลักษณ์ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำของโลกอย่าง Ducati คงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของ Ducati 959 Panigale ในการตอบสนองความต้องการในครั้งนี้ ซึ่งในการ Battle กันในครั้งนี้ ดูเหมือนว่า Kawasaki ZX-10R จะมีความคุ้มค่ามากกว่า ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า ผสานกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงกว่า อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่ได้แชมป์ในการแข่งขัน SBK Superbike FIM World Championship สนามล่าสุดอีกด้วย แต่ถ้าว่ากันด้วย "อารมณ์ล้วนๆ" ยังไงผมก็เชื่อว่า Panigale Family ก็ยังเป็นสปอร์ตไบค์ในฝันสำหรับคนทั้งโลกอยู่ดีครับ

          นี่คือ การเปรียบเทียบจากข้อมูลบางส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจของไบค์เกอร์ทุกท่าน และในครั้งหน้า BoxzaRacing.com จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike สุดเร้าใจคันไหนมาทำการ Battle ให้ชาวสองล้อขาซิ่งทั้งหลายได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันในรอบต่อไปที่ BoxzaRacing ที่นี่...ที่เดียวเท่านั้น สำหรับวันนี้ผมต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ