Ducati เปิดตัวโมเดลใหม่ 6 รุ่น พร้อมสานต่อตำนาน Mike Hailwood ในงานมอเตอร์โชว์ 2016
ดูคาติไทยแลนด์ตอกย้ำความเป็นผู้นำบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียม สร้างประวัติศาตร์หน้าใหม่ โดยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ 2016 พร้อมกันถึง 6 รุ่น จากสุดยอดไอคอนเน็คเก็ตไบค์ Monster 821 ที่มาพร้อมกับดีไซน์โฉมใหม่ รถสปอร์ตทัวร์ริ่งพร้อมช่วงล่างระดับแข่งขัน Multistrada 1200 Pikes Peak และพร้อมลุยทุกเส้นทางออฟโรดไปกับ Multistrada 1200 Enduro สานต่อนวัตกรรมซูเปอร์ไบค์ 959 Panigale ครั้งแรกกับรถครุยเซอร์ของดูคาติกับพละกำลังอันเต็มเปี่ยมใน X Diavel และปลุกจิตวิญญาณนักแข่งในตำนานด้วย Ducati Scrambler Special Edition Mike Hailwood พร้อมแคมเปญพิเศษอีกมากมายเพื่อให้คุณเป็นเจ้าของรถดูคาติในฝันได้ง่ายขึ้น
คุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ กล่าวถึงไฮไลท์ในการเข้าร่วมงาน Motor Show 2016 ว่า “สำหรับงานปีนี้ เป็นปีแรกที่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 6 รุ่น ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งรุ่น Monster ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเน็คเก็ตไบค์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายเวอร์ชั่น รถในตระกูลสปอร์ตทัวร์ริ่ง 4 Bikes in 1 โฉมใหม่ หรือรถเอ็นดูโร่ที่สามารถลุยทุกเส้นทางได้ดังใจ และรถซูเปอร์ไบค์ที่เป็นจิตวิญญาณของแบรนด์ดูคาติ รวมถึงรถคาแรกเตอร์ใหม่สไตล์ครุยเซอร์ที่อัดแน่นไปด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ตามแบบฉบับของดูคาติ นอกจากนี้ ยังมีการปลุกจิตวิญญาณของนักแข่งในตำนานเจ้าของสมญานาม Mike The Bike ผ่านรถ Scrambler รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ซึ่งแน่นอนว่าทางดูคาติไทยแลนด์มีแคมเปญพิเศษมามอบให้ลูกค้าในงานนี้โดยเฉพาะ”
รถจักรยานยนต์ดูคาติที่นำมาเปิดตัวในงาน ได้แก่
1. Monster 821
ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ 821 ซีซี. เทสตาสเทรทต้า อีเลฟเว่นดีกรี (821 cc. Testastretta 11°) ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ สปอร์ต, ทัวร์ริ่ง และเออเบิ้น โดยมีรุ่นใหม่ให้เลือกหลากหลายเวอร์ชั่น
Monster 821 Yellow ราคา 469,900 บาท
Monster 821 Diamond Black ราคา 469,900 บาท
Monster 821 Stripe ราคา479,900 บาท
Monster 821 Raw ราคา 599,900 บาท
2.New Multistrada 1200 Pikes Peak
มาพร้อมชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้น้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแกร่งในทุกส่วนของตัวรถ อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ จาก Multistrada 1200S มอบความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง มาพร้อมช่วงล่างประสิทธิภาพสูงเกรดรถแข่งขันจากโอลิน (Öhlins) ทั้งหน้าและหลัง สามารถปรับได้ทุกรูปแบบได้อย่างอิสระ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,190,000 บาท
3. New Multistrada 1200 Enduro
รถทัวร์ริ่งสายพันธุ์ใหม่สำหรับนักเดินทางรอบโลกอย่างแท้จริง กับถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร และถือเป็นครั้งแรกของ Ducati ที่ออกแบบรถบิ๊กไบค์ที่สามารถลุยได้ทุกที่ ทุกรูปแบบเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนลาดยาง หรือทางออฟโรด ด้วยช่วงล่างอัจฉริยะที่ปรับอิสระอย่างทันท่วงทีทุกครั้ง เพื่อการกลับสู่พื้นดินอย่างนุ่มนวล กับล้อหน้าขนาดใหม่ 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 120/70 และล้อหลัง 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 170/60 แบบล้อซี่ลวดน้ำหนักเบาแบบไม่มียางใน ซึ่งสามารถรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี มาพร้อมดูคาติ สกายฮุค ซัสเพนชั่น (Ducati Skyhook Suspension) ระบบช่วงล่างสุดมหัศจรรย์ ที่จะช่วยปรับการตอบสนองของรถให้ปรับเปลี่ยนไปตามพื้นผิวแต่ละที่ที่คุณไป เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับนักเดินทางตัวจริง โดยเริ่มเปิดรับจองภายในงาน
4.) 959 Panigale
ปลดปล่อยความรู้สึกได้อย่างชัดเจนทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน กับเครื่องยนต์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระบบสลิปเปอร์คลัชท์ (slipper clutch) พุ่งทะยานไปกับเฟรมแบบโมโนค็อค (Monocoque) และช่วงล่างที่ปรับระดับได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงท่อไอเสียดีไซน์ใหม่น้ำหนักเบาซึ่งผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ Euro 4 ผสานกับเทคโนโลยี 3 โหมดการขับขี่ Race Mode, Sport Mode และ Wet Mode เพื่อให้ควบคุมตัวรถได้อย่างง่ายดายในทุกระดับความเร็ว โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 749,900 บาท
5.) X Diavel
ผ่อนคลายตามแบบฉบับของรถครุยเซอร์ แต่ยังคงพละกำลังและกลิ่นอายของความเป็นรถสปอร์ต มาพร้อมขุมพลังใหม่กับเครื่องยนต์เทสตาสเทรทต้า ดีวีที (Testastretta DVT) ที่เรียกแรงบิดสูงสุดได้จากรอบเครื่องยนต์เพียง 5,000 รอบ/นาที ตามแบบฉบับของยนตกรรมจาก Borgo Panigale รวมถึงท่านั่งในตำแหน่งของเบาะที่ต่ำ และชุดพักเท้าที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 3 ตำแหน่ง รวมถึงการปรับตำแหน่งท่านั่งได้ถึง 60 แบบ เพื่อให้เหมาะกับสรีระของแต่ละคน มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Multimedia ต่างๆ ที่รองรับอุปกรณ์หูฟัง, อุปกรณ์นำทาง, สมาร์ทโฟน รวมถึงระบบครุยซ์ คอนโทรล (Cruise Control) เพื่อความสะดวกสบายในทุกเส้นทาง โดยราคาจำหน่ายของ X Diavel อยู่ที่ 898,000 บาท และรุ่น X Diavel S อยู่ที่ 1,058,000 บาท
6) Ducati Scrambler Special Edition Mike Hailwood®
สานต่อตำนานนักแข่งผู้ยิ่งใหญ่อย่างไมค์ เฮลวูด (Mike Hailwood) เจ้าของฉายา ไมค์ เดอะ ไบค์ (Mike “The Bike”) ผู้สร้างตำนานชัยชนะอันยิ่งใหญ่กับรถ DUCATI ในรายการทัวร์ริซ โทฟี่ (Tourist Trophy) บนเกาะไอเอล ออฟ แม่น (Isle of Man) ประเทศอังกฤษ ในปีค.ศ. 1978 ซึ่งในปีนี้ ดูคาติไทยแลนด์ได้นำลวดลายและดีไซน์ระดับตำนานนี้มาอยู่ใน Scrambler ปี 2016 ทั้งชุด Body part ที่มาพร้อมกับโทนสีและลวดลายในสไตล์ของรถแข่งในปี 1978 เพื่อให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของชัยชนะได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปลี่ยนอุปกรณ์ในตัวรถเพื่อเสริมสมรรถนะให้ดียิ่งขึ้น เช่น โช๊คหลัง Öhlins, ยาง Pirelli Angle GT ลวดลายของยางดูสปอร์ตขึ้นและมีการใช้งานที่ครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ได้อรรถรสในการขับขี่แบบ Sport ที่แท้จริง ซึ่งมีเพียง 58 คันเท่านั้น เพื่อรำลึกถึงการครบรอบปีที่ 58 ที่ Mike ได้ร่วมสร้างตำนานร่วมกับทาง Ducati ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 699,000 บาท
โดยลูกค้าที่สนใจสามารถจองรถ Ducati Scrambler Special Edition Mike Hailwood® ผ่านทาง http://www.scramblerhailwood.com เท่านั้น
