เมื่อพูดถึงการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ของแต่งชิ้นแรกที่หลายๆ คนนึกถึงคือท่อไอเสียแต่งแน่นอนครับ เพราะด้วยคุณสมบัติที่ตามมา ย่อมตอบโจทย์ให้กับรถคู่ใจของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความสวยงาม ไปจนถึงสมรรถนะ โดยเฉพาะท่อไอเสียที่ใช้วัสดุเกรดสูงในการผลิตและเป็นที่นิยมในหมู่รถบิ๊กไบค์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ท่อไอเสีย "Titanium" หรือที่ไบค์เกอร์เมืองไทยเรียกกันว่า ท่อไทเท ในครั้งนี้ BoxzaRacing ช่วงความรู้เรื่องรถ เราจะมาหาคำตอบกันว่า ท่อไอเสียที่ใช้วัสดุ Titanium นั้น มีความพิเศษที่แตกต่างจากท่อไอเสียที่ใช้วัสดุเหล็กธรรมดาอย่างไร ไปติดตามกันเลยครับ
ด้วยความพิเศษของท่อไอเสียแต่งทุกใบที่มีติดตัวมาก็คือ สุ้มเสียงและรูปทรงที่จะทำให้รถคู่ใจของคุณเพิ่มเสน่ห์ขึ้นเป็นกอง แต่ด้วยเหตุผลของไบค์เกอร์บางท่านที่ต้องการมากกว่านั้นก็คือ สมรรถนะที่แท้จริง เพราะด้วยท่อไอเสียแต่งบางครั้งถูกออกแบบมาเพื่อคู่กับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์สูงเช่นกัน พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้านำท่อไอเสียแต่งที่ไม่ได้มาตรฐานหรือใช้วัสดุที่เกรดไม่สูงพอ มาติดตั้งเข้ากับรถที่มีความแรงของเครื่องยนต์ที่สูงลิ่ว อาจทำให้มีปัญหารถวิ่งไม่ออก หรือวัสดุท่อไอเสียไม่สามารถทนกับความร้อนที่ออกมาได้ จนไปถึงความเสียหายของเครื่องยนต์ที่จะตามมา เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ท่อแต่งสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความสวยงามและสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ควรต้องตรวจเช็ครายละเอียดให้ดีเสียก่อนนะครับ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะมาทำความรู้จักกับท่อแต่งวัสดุ Titanium กันว่ามันมีความพิเศษอย่างไรทำไมคนถึงนิยมเลือกใช้กัน
1.น้ำหนักและพื้นผิวสัมผัส
สิ่งแรกในการเลือกซื้อท่อไอเสียคือ การจับสัมผัสกับตัวท่อไอเสีย ความแตกต่างของท่อที่ใช้วัสดุเหล็กธรรมดาหรือสแตนเลส กับท่อที่ใช้วัสดุ Titanium ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ เรื่องของน้ำหนักที่เบากว่าท่อไอเสียเหล็กธรรมดาประมาณ 40-50% จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้น้ำหนักรถของตัวเองลดลงเพื่อบาลานซ์ของรถที่ดีขึ้น เพราะท่อไอเสียเดิมของรถบางรุ่นก็ปาไป 4-5 กิโลกรัมแล้ว และพื้นผิวของท่อที่ใช้วัสดุ Titanium พอมองเผินๆ จะไม่ค่อยต่างกับท่อที่เป็นเหล็กธรรมดาเท่าไหร่ นอกเสียจากผู้ที่มีประสบการณ์ถึงจะมองออก แต่ถ้าสังเกตให้ดีๆ เมื่อท่อไอเสียที่ใช้วัสดุ Titanium ถูกความร้อนในระยะเวลานาน จะปรับเปลี่ยนสีพื้นผิวเป็นสีรุ้งโดยส่วนใหญ่ เนื่องจากอีกหนึ่งความพิเศษของวัสดุ Titanium เมื่อโดนความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้หรือทำปฏิกริยาทางเคมี มวลพื้นผิวของ Titanium จะสร้างแผ่นฟิล์มเพื่อป้องกันพื้นผิวของตัวเอง นั่นก็คือ สีรุ้งโทนน้ำเงินที่ไล่เฉดสีไปจนถึงสีทองไหม้ตามอุณหภูมิ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Titanium ที่หลายๆ คนจดจำ
2.ความทนทานสูง
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ความทนทานสูงกว่าเหล็กธรรมดาหลายเท่า ด้วยมวลของวัสดุ Titanium ที่ใช้สำหรับผลิตท่อไอเสียนั้น "มีความหนาแน่นต่ำทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการกระจายน้ำหนักต่อวัตถุอื่นๆ ค่อนข้างสูงจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วัสดุ Titanium มีน้ำหนักที่เบาและแข็งแรง" ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเจอแรงกระแทกหรือเสียดสีจะสามารถทนทาน ไม่แตกหัก และไม่บิดเบี้ยวจนเสียรูป โดยการกระจายน้ำหนักที่สูง ได้มีการกระทำต่อวัตถุที่เข้ามาชน แถมยังต้านทานกับการกัดกร่อนของสนิมและสารเคมี อย่างเช่น น้ำมันต่างๆ ที่มีการกัดกร่อนสูงย่อมเป็นได้ยากสำหรับการที่จะมาทำให้พื้นผิวของ Titanium เสียหายหนัก
3.ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งคุณสมบัติอันเป็นที่ต้องการของผู้เลือกใช้ท่อไอเสียวัสดุ Titanium เลยก็ว่าได้ เพราะข้อดีของการที่ท่อไอเสียสามารถระบายนำความร้อนออกจากตัวเองได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งสามารถลดการเสียหายของชิ้นส่วนต่างๆ ภายในท่อไอเสียและเครื่องยนต์ได้ดีเท่านั้น ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่เราจะมาอธิบายให้ฟังง่ายๆ คือ ในมวลของวัสดุ Titanium จะมีค่าการแปรปรวนของความร้อนภายในที่ต่ำกว่าเหล็กธรรมดา พูดง่ายๆ ก็คือ "Titanium เป็นวัสดุที่ตอบสนองกับความร้อนได้ง่าย แต่กักเก็บความร้อนไว้ได้ไม่นาน" เพราะจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นคือ Titanium มีมวลความหนาแน่นของวัตถุที่ต่ำ แต่มีความยืดหยุ่นในการกระจายมวลต่างๆ ที่อยู่ภายในวัสดุสูงกว่าเหล็กธรรมดา เลยกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ Titanium ไม่มีคุณสมบัติกักเก็บความร้อนได้เป็นเวลานาน จึงเป็นข้อดีสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีพละกำลังสูงเพราะส่วนใหญ่แล้ว รถที่เครื่องแรงมักจะตามมาด้วยอัตราการคายไอเสียที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงเช่นกัน เลยกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้รถที่ติดตั้งท่อไอเสียแบบ Titanium Full System มักจะเพิ่มความแรงได้ในระดับหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะการระบายความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำให้ระบบไอเสียปลดปล่อยออกมาได้ในปริมาณที่พอสมควรและไม่ตกค้างเป็นปริมาณมาก
โดยภาพรวมแล้วท่อไอเสียที่ใช้วัสดุ Titanium ในการผลิต ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคุณสมบัติที่พิเศษขนาดนี้ นับว่าเป็นของแต่งรถอีกหนึ่งชิ้นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้รถที่ต้องการวัสดุระดับ High Performance เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ พร้อมราคาค่าตัวที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาท ตามรูปทรงบ้างหรือตามออพชั่นที่แต่ละค่ายผู้ผลิตต่างงัดทีเด็ดออกมาแข่งกัน ในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำความรู้ดีๆ แบบไหนมาฝากกันอีก รอติดตามได้ที่ www.BoxzaRacing.com ที่นี่...ที่เดียวครับ
