เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 30 สิงหาคม 2561 - 17:34

ภาพโดย: Refresh

Refresh

เกียร์แข็ง กับความร้อนบิ๊กไบค์ แก้อย่างไรให้หายขาด ไปดูเคล็ด (ไม่) ลับกันเลย

 

          บิ๊กไบค์ มอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงอันเป็นพาหนะในฝันของใครหลายๆ คน เริ่มเป็นรถที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง ณ ปัจจุบัน เนื่องจากผู้ใช้สามารถเข้าถึงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยราคาที่ต่ำลงบวกกับค่ายรถต่างๆ ที่จัดโปรโมชั่นให้ชาวไบค์เกอร์ระดับมนุษย์เงินเงินเดือนจับต้องได้ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเมื่อเราได้เห็นผู้ใช้รถบิ๊กไบค์กันมากขึ้น เราก็ยิ่งจะพบปัญหาของการใช้รถบิ๊กไบค์เพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

 

 

           สำหรับปัญหาหนึ่งที่ผู้ขับขี่พบได้จากการขี่บิ๊กไบค์ นั่นก็คือ อาการเกียร์แข็ง เข้าเกียร์ยาก เกิดการติดขัด มีเสียงดัง จนอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนภายใน อีกทั้งยังมีเรื่องของความร้อนสะสมที่ทำให้ไบค์เกอร์ผู้ครอบครองรถคันนั้นๆ เกิดความกังวลใจ รวมถึงปัญหาต่างๆ ตามมา จนอาจทำให้การขับขี่ในแต่ละครั้งนั้น ขาดอรรถรสไปอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะการขับขี่ในเมื่องที่สภาพการจราจรแออัดจนทำให้เกิดความร้อนสะสมที่สูงเกินปกติ หรือการขับขี่ในสนามแข่งที่ต้องรีดเค้นสมรรถนะของตัวรถออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันนี้ BoxzaRacing มีเคล็ด (ไม่) ลับสำหรับแก้ปัญหาที่พบได้ในการขับขี่บิ๊กไบค์มาฝากกันครับ ไปติดตามในเกร็ดความรู้เรื่องรถกันได้เลย

 

 

           เคล็ดไม่ลับในการดูแลบิ๊กไบค์คู่ใจให้สามารถใช้งานได้อย่างไร้ปัญหาก็คือ ตรวจเช็ครถตามระยะที่ศูนย์บริการกำหนด ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาระยะเวลาในการรับประกันแล้ว ยังช่วยให้บิ๊กไบค์คันเก่งของคุณ ได้รับการดูแลในระยะเวลา หรือระยะทางที่เหมาะสม โดยในระหว่างการใช้งาน ก่อนและหลังเดินทาง หมั่นตรวจสอบของเหลวต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนด ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำหล่อเย็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย (สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยเพลา) และที่สำคัญ ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก และมีสารพิเศษที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น น้ำมันเครื่อง Valvoline VR1 Racing Oil 4T น้ำมันเครื่องอัลตร้าซินเธติคสังเคราะห์ 100% ที่ผลิตจากเทคโนโลยีขั้นสูงสุด 4-Tech Ultimate Chemistry ผสมสาร POLY ALPHA OLEFINS (PAO) คุณภาพเหนือกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ทั่วไป ด้วยโครงสร้างโมเลกุลชนิดพิเศษ Tri-Synthetic ที่ผลิตขึ้นจากกระบวนการสังเคราะห์เทคโนโลยีเฉพาะของ Valvoline 

 

 

           นอกจากการเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติที่ดีแล้ว การเลือกค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องอย่างเหมาะสม ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดย Valvoline VR1 Racing Oil 4T มีค่าความหนืดยอดนิยมให้เลือกใช้ตามต้องการ นั่นก็คือ 10W-40 และ 10W-50 ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้ที่เคยใช้น้ำมันเครื่อง Valvoline VR1 Racing Oil 4T ก็พบว่า น้ำมันเครื่องรุ่นนี้ ช่วยลดปัญหาที่ชาวไบค์เกอร์มักพบกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอาการเกียร์แข็ง เข้ายาก โดยเมื่อเปลี่ยนแล้ว ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้ง่าย มีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น ระบบคลัทช์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีอาการคลัทช์ลื่นให้เห็น ไม่ว่าจะทั้งกับการใช้งานทั่วไป หรือแม้แต่การแข่งขันในรูปแบบเซอร์กิตที่ต้องใช้รอบสูงเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบลื่น ลดเสียงที่เกิดจากการเสียดสีของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับเรื่องของความร้อนที่ลดลงจากที่สังเกตได้จากมาตรวัดอุณหภูมิบนหน้าปัด

 

คุณสุทธิชัย ชัยรัตนงามเดช (คุณแจ๊ค) กับ Yamaha YZF-R6 ที่ใช้ทั้งแข่งและขับขี่ในชีวิตประจำวัน

 

 

           คุณสุทธิชัย ชัยรัตนงามเดช (คุณแจ๊ค) ผู้ครอบครอง Yamaha YZF-R6 2017 ม้าศึกคู่ใจที่ใช้งานทั่วไป รวมถึงสร้างความเร้าใจในสนามแข่ง ไม่ว่าจะเป็นไทยแลนด์ เซอร์กิต รวมถึงสนามระดับโลกอย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้ข้อมูลหลังจากที่ได้ลองใช้ Valvoline VR1 Racing Oil 4T เบอร์ 10W-40 ว่า..."ก่อนหน้านี้ ปัญหาหลักๆ จากการใช้งานไปสักระยะ เกียร์จะเริ่มแข็ง เข้ายากและมีเสียงดังมากขึ้น แต่จากที่ได้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันเครื่องตัวนี้ รู้สึกได้เลยว่า น้ำมันเครื่อง Valvoline VR1 Racing Oil 4T มีการไหลเวียนในระบบที่ดี เครื่องยนต์ทำงานได้เรียบเนียน เตะเกียร์ได้นุ่มกว่าปกติ ลดแรงเสียดทานระหว่างเท้ากับคันเกียร์ ส่วนเรื่องของความร้อนนั้นมีไม่มาก จากการขี่ไปสักระยะ อีกทั้งให้ฟีลลิ่งการจับของคลัทช์ที่แนบแน่น ส่งให้รถมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นอย่างรู้สึกได้"

 

คุณปรเมศวร์ ขำแนวนาค กับ Kawasaki ER-6N คันเก่ง

 

 

           คุณปรเมศวร์ ขำแนวนาค (คุณปอนด์) อีกหนึ่งผู้ที่ได้ทดลองใช้น้ำมันเครื่อง Valvoline VR1 Racing Oil 4T เบอร์ 10W-50 กับรถ Kawasaki ER-6N บอกกับเราว่า "ด้วยความที่รถมีอายุอานามค่อนข้างมาก บวกกับเลขไมล์ที่เริ่มเยอะ เครื่องยนต์ย่อมมีการสึกหรอมากเป็นธรรมดา จึงเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดมากขึ้น โดยหลังจากที่ลองใช้ Valvoline VR1 Racing Oil 4T ก็พบว่า ปัญหาเกียร์แข็งที่เคยพบเจออยู่บ่อยๆ ก็หายไป เข้าเกียร์ได้ง่าย สมูทมากขึ้น เช่นเดียวกับอาการคลัทช์ลื่นที่มักเป็นเวลาเครื่องร้อนก็หายไป คลัทช์จับได้แบบมีพลัง แรงติดมือทุกครั้งที่เปิดคันเร่ง"

 

Valvoline VR1 Racing Oil 4T

 

           ที่กล่าวมาก็คือ เคล็ด (ไม่) ลับง่ายๆ ที่ช่วยให้บิ๊กไบค์คันเก่งของคุณสำแดงเดชออกมาได้อย่างทรงประสิทธิภาพ อย่าเพิ่งเชื่อ ! จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ผิดจากความเป็นจริงแน่ๆ คือ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ จะช่วยยืดอายุบิ๊กไบค์คันเก่งของคุณได้อย่างแน่นอนครับ

 

 

ขอขอบคุณสถานที่  SMS Sakol Motorsport

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook