เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 18 เมษายน 2561 - 11:03

ไขปัญหาสุดคาใจของไบค์เกอร์...ทำไมสปอร์ตไบค์ส่วนใหญ่ ถึงเครื่องแรงแค่ไหน ก็วิ่งได้แค่ 299 กม./ชม.

Yamaha YZF-R1M กับ Topspeed 299 Km/h ที่เกียร์ 5

 

          สวัสดีครับแฟนๆ ชาว BoxzaRacing ทุกท่าน...มาพบกันอีกแล้วในช่วงความรู้เรื่องรถ ที่จะนำพาทุกท่านไขปัญหาและคำถามคาใจเกี่ยวกับเรื่องรถมากมาย จนไปถึงเทคนิคการใช้งานและการขับขี่อย่างถูกต้อง เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าถึงและเข้าใจในตัวรถอย่างถ่องแท้ ในครั้งนี้เราจะมาไขปริศนาอีกหนึ่งอย่างของชาวไบค์เกอร์หลายๆ คน ที่ยังคงคาใจกับตัวเลขความแรงที่แสดงออกมาว่าทำไมถึงไม่ไปต่ออีกแค่นิดเดียวเอง...สงสัยแล้วใช่ไหมล่ะครับ ว่ามันคือ เรื่องอะไร เดี๋ยวตามไปดูกันเลยครับ

 

Honda CBR1000RR 2017 กับความแรงที่สาดไม่ยั้ง แต่ยังหยุดที่ 299 Km/h

 

          เจ้าปริศนาที่ไบค์เกอร์หลายๆ คนยังคาใจก็คือ...ทำไมสปอร์ตไบค์เดิมๆ จากโรงงานส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเครื่องแรงขนาดไหน ความเร็วที่เรือนไมล์ก็แสดงผลตัวเลขสุดไว้แค่ 299 Km/h ไม่ว่าจะเป็นตัวแรงจากค่ายปีกนก Honda อย่าง Honda CBR1000RR 2017 เหมือนกับภาพด้านบนและอีกหลายๆรุ่นของค่ายญี่ปุ่น ที่เล่นสาดความเร็วแตะ 299 Km/h ตั้งแต่เกียร์ 5 และเหลืออีกตั้ง 1 เกียร์ แต่ตัวเลขแสดงผลความเร็วก็ยังคงหยุดอยู่ที่ 299 km/h ไม่ขยับไปอีกเลย 

 

Honda CBR1100xx BlackBird

 

Suzuki GSX-1300R Hayabusa

 

340 Km/h ความแรงระดับฮาร์ดคอแห่งยุค 90 ของเจ้า Suzuki GSX-1300R Hayabusa ปี 1999

 

          เรื่องมันมีอยู่ว่า...ย้อนกลับไปในช่วงยุคของการบุกเบิกอุตสาหกรรมการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่หลายๆ ค่ายผู้ผลิตชั้นนำสามารถพัฒนาเครื่องยนต์สมรรถนะสูงได้เป็นที่เรียบร้อย บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ทั้งหลาย ก็ได้มีการแข่งขันกันในด้านของการพัฒนาต่อยอดสมรรถนะความเร็วให้เหนือที่สุดเพื่อครองบัลลังค์รถมอเตอร์ไซค์เร็วที่สุดในโลกทั้งค่ายญี่ปุ่นและยุโรป...จนทำให้ความเร็วสูงสุดทะลุ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจะสามารถพบเห็นได้กับรถสปอร์ตไบค์ยุค 80-90 ที่เรียกได้ว่าดิบเถื่อนของจริงไม่มีกั๊กความเร็ว อย่าง Suzuki GSX-1300R Hayabusa ปี 1999 ที่มีเรือนไมล์แสดงผลความเร็วสูงสุด 340 Km/h และ Honda CBR1100 XX BlackBird ปี 1996 ที่มีเรือนไมล์แสดงผลความเร็วสูงสุด 320 Km/h 

 

 

          จึงเริ่มมีเสียงสะท้อนจากหลายๆ ด้านออกมาว่า "อันตรายเกินไป สำหรับผู้บริโภค" และเนื่องด้วยในยุคนั้น เส้นทางและพื้นถนนสำหรับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่มีความเร็วสูงทะลุ 300 Km/h ขนาดนั้นแทบไม่มีด้วยซ้ำ และโดยส่วนใหญ่แล้วถ้าจะขับขี่ใช้ความเร็วสูง บรรดาไบค์เกอร์ก็จะไปขับขี่กันที่สนามแข่งเท่านั้น ดังนั้น หลังจากปี ค.ศ.2001 เหล่าบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ทางญี่ปุ่นและยุโรปได้แก้ไขปัญหานี้ โดยการทำข้อตกลงที่มีชื่อว่า "Gentleman's agreement" ขึ้น โดยตกลงกันว่า "ไม่ว่ารถรุ่นนั้นจะวิ่งได้เร็วแค่ไหน แต่ขอให้แสดงตัวเลขที่หน้าปัดสูงสุดแค่ 299 km/h" เพื่อไม่เป็นการแสดงผลตัวเลขความเร็วที่ดูอันตราย เกินกว่าที่จะวิ่งบนท้องถนนธรรมดา ด้วยการสร้างขีดจำกัดที่ดูสมเหตุสมผลแก่ผู้บริโภค

 

 

          จนถึงปัจจุบันนี้ รถสปอร์ตไบค์หลายๆ รุ่น ทั้งในค่ายญี่ปุ่นและยุโรปก็ยังคงใช้ข้อตกลง "Gentleman's agreement" กันอยู่ ถึงแม้จะมีบางรุ่นที่สามารถแสดงผลความเร็วเกิน 299 Km/h แต่ส่วนใหญ่นั้น จะเป็นรุ่นที่ถูกผลิตออกมาเป็นพิเศษและจะเน้นไปในทางที่ใช้วัสดุพิเศษในการผลิตเช่นกัน โดยจะมีจำนวนจำกัดและมีจำหน่ายในบางพื้นที่เท่านั้น...และคงไม่ต้องพูดถึงราคาจำหน่าย แต่ล่ะคันแพงหูฉี่แน่นอน อย่างเช่น ในรูปด้านบนกับเจ้า Kawasaki Ninja H2R ที่สุดของ Superbike ตัวแรงแห่งยุคที่มีความพิเศษคือ ติดตั้ง Supercharge เข้าไปในเครื่องยนต์สามารถทำความเร็วได้ถึง 400 Km/h แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการจำหน่ายสู่ท้องตลาดด้วยค่าตัวที่สูงลิ่วและอุปกรณ์มาตรฐานในการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ไม่ครบตามกฎหมายกำหนด เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กระจกมองหลัง ที่ไม่มีการติดตั้งจากโรงงาน จึงมีข้อจำกัดในการจำหน่ายสู่ท้องตลาดในบางพื้นที่

 

 

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับปริศนาที่คาใจชาวไบค์เกอร์มานานกับความเร็ว 299 Km/h ที่ทำไมรถแรงแค่ไหนตัวเลขมันก็ไม่ขยับซักที แต่สุดท้ายนี้ขอฝากแฟนๆ ไว้ว่า ขี่ช้าๆ ปลอดภัยที่สุดนะครับ 299 Km/h เราค่อยไปปลดปล่อยกันในสนามแข่งจะดีกว่า ในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำความรู้เรื่องรถแบบไหนมาฝากอีก รอติดตามกันได้เลยครับที่ www.BoxzaRacing.com ที่นี่...ที่เดียวครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook