เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 3 พฤษภาคม 2560 - 12:50

Bigbike กับนักบิดหน้าใหม่ เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย อยู่ร่วมกันได้อย่างเร้าใจ ไร้ความกังวล

 

           Bigbike กับนักบิดหน้าใหม่ ดูจะเป็นอะไรที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะกว่าไบค์เกอร์แต่ละคนจะสั่งสมประสบการณ์จนแก่กล้า ทุกคนก็ลวนแล้วแต่ต้องเคยผ่านจุดที่เรียกว่า การเริ่มต้น มาก่อนทั้งสิ้น แต่...ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเริ่มต้นกับรถ Bigbike ได้อย่างสวยสดงดงามเสมอไป วันนี้ BoxzaRacing จึงอยากจะนำเสนอเทคนิคเริ่มต้นในการขี่บิ๊กไบค์สำหรับมือใหม่ ที่มีชื่อว่าหลักสูตร Ducati Riding Experience หรือ DRE หลักสูตร Intro Course

 

Ducati Riding Experience หลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบค์ส่งตรงจากประเทศอิตาลี

 

ทีมงานผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์จาก Ducati

 

สิ่งแรกที่สำคัญสำหรับการขี่บิ๊กไบค์ คือ การแต่งกายให้รัดกุม

 

            Ducati Riding Experience เริ่มครั้งแรกในปี 2003 จนถึงปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมทุกหลักสูตรแล้วกว่า 1 หมื่นคน หลักสูตรที่ครูฝึกกล่าวว่ามีความท้าทายมากที่สุดคือ Intro Course เพราะต้องทำให้ผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมซึ่งส่วนใหญ่ ยังไม่เคยสัมผัสบิ๊กไบค์มาก่อน สามารถก้าวผ่านความกลัวและความกังวลเกี่ยวกับบิ๊กไบค์ พร้อมสอนวิธีการขี่รถที่ถูกต้องตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3-4 ชั่วโมง  

 

 

อุ่นเครื่องด้วยการหาสมดุลของรถ

           หนึ่งในสิ่งที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับบิ๊กไบค์ คือ น้ำหนักรถ ครูฝึกจึงเริ่มด้วยการสอนเรื่องการหาจุดสมดุลของรถ ถ้ารถตั้งฉากกับพื้น ผู้ขี่ก็ไม่ต้องแบกน้ำหนักรถมากนัก เพียงแค่ประคองไว้รถก็ตั้งอยู่ได้ แต่ถ้ารถเริ่มเอียง ผู้ขี่ก็ต้องออกแรงต้านมากขึ้น เมื่อหาจุดสมดุลของรถได้แล้ว น้ำหนักของบิ๊กไบค์ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

 

หาสมดุลของรถ พื้นฐานสำคัญในการเริ่มต้นขี่บิ๊กไบค์

 

            เริ่มฝึกตั้งแต่ตอนที่รถอยู่บนขาตั้ง เดินเข้าหารถทางด้านซ้าย มือทั้ง 2 ข้างจับแฮนด์ มือขวาบีบเบรกหน้าไว้ ใช้สะโพกค่อยๆ ดันรถให้ตั้งฉากกับพื้น จากนั้นใช้เท้าขวาเตะขาตั้งขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องเข้าหารถทางด้านซ้าย เพราะขาตั้งของมอเตอร์ไซค์เกือบทั้งหมดอยู่ด้านซ้าย จากนั้นให้ประคองรถไว้แล้วเคลื่อนที่ไปรอบรถทั้งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา เริ่มจากการย้ายมือไปจับบนตัวรถในจุดที่มั่นคง เมื่อรถนิ่งแล้วจึงก้าวขาตาม พยายามอย่าให้แขนหรือขาไขว้กัน เมื่อครบรอบก็เตะขาตั้งลง ขั้นตอนนี้ผู้ขี่ที่ชำนาญแล้วก็ยังพลาดได้ เตะขาตั้งแล้วต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าขาตั้งลงสุดจริงๆ จากนั้นจึงค่อยๆ วางรถลงบนขาตั้ง

 

 

เทคนิคเอาชนะความสูงของรถ

            อีกหนึ่งความกังวลของมือใหม่บิ๊กไบค์ คือ ความสูงของรถ ถ้าเป็นคนที่รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 เซนติเมตร เมื่อขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์แล้ว ส่วนใหญ่เท้าจะยันพื้นได้ไม่เต็มเท้า ต้องเขย่งมากบ้างน้อยบ้าง ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะประคองรถอยู่หรือไม่ ปัญหานี้...แก้ไขได้ด้วยการเคลื่อนก้นไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพื่อให้เท้ายันพื้นได้มั่นคงขึ้นหรือเกือบเต็มเท้า ประคองรถให้ตั้งฉากกับพื้น ช่วยเพิ่มปลอดภัยโดยเฉพาะเมื่อต้องจอดบนพื้นที่ค่อนข้างลื่น หมดกังวลเรื่องการจอดล้ม

 

หากรู้เทคนิคในการวางเท้า ความสูงของเบาะ ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

 

             รถที่ใช้ในการอบรมครั้งนี้ คือ Ducati Monster 797 (ดูคาติ มอนสเตอร์ 797) ดูจะเป็นรถที่เหมาะกับมือใหม่ เพราะน้ำหนักค่อนข้างเบาเมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกันคือ 193 กิโลกรัม และเบาะนั่งก็ไม่สูงมาก แค่ 805 มิลลิเมตร เมื่อขึ้นไปคร่อมแล้วน้ำหนักตัวก็จะกดตัวรถให้เตี้ยลงอีกนิด ผู้เข้ารับการอบรมสูง 169 เซนติเมตร หนัก 63 กิโลกรัม นั่งคร่อมได้สบายๆ เท้าทั้ง 2 ข้าง ยันพื้นได้ประมาณครึ่งเท้า มั่นคงและมั่นใจพอสมควร ลองย้ายก้นไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพียงแค่นิดเดียว ก็สามารถยันพื้นได้อย่างมั่นคงเพราะลงเต็มเท้า

 

ออกตัวและเบรคอย่างนุ่มนวล ช่วยให้รถทรงตัวได้อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น

 

ฝึกออกตัวและเบรกให้นุ่มนวล

            เมื่อทรงตัวบนรถได้แล้ว ต่อไปคือ การฝึกควบคุมคลัตช์และเบรกเพื่อให้ออกตัวและจอดได้อย่างนุ่มนวล สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วมือซ้ายบีบคลัตช์ให้สุด ใช้เท้าซ้ายกดคันเกียร์ลงเพื่อเข้าเกียร์ 1 จากนั้นค่อยๆ ปล่อยคลัตช์โดยยังไม่ต้องบิดคันเร่ง แรงบิดระดับ 68.9 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบ/นาที ก็สามารถพารถเคลื่อนตัวออกได้ ช่วงแรกควบคุมความเร็วด้วยคลัตช์เพียงอย่างเดียว ปล่อยคลัตช์มากความเร็วเพิ่มขึ้น และเมื่อต้องการชลอความเร็วก็บีบคลัตช์เข้ามา ฝึกออกตัวในระยะทางสั้นๆ แล้วแตะเบรกหน้าเพื่อจอดรถ มอนสเตอร์ 797 ใช้ระบบดิสก์เบรกหน้าคู่ ขนาด 320 มิลลิเมตร คาลิเปอร์ Brembo M4 พร้อม ABS ของ Bosch ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แม้เป็นมือใหม่ก็กะน้ำหนักเบรกได้ง่าย ทำให้เบรกได้นุ่มนวลถูกใจครูฝึก

 

สายตามองไปทางใด รถก็จะเลี้ยวไปทางนั้น 

 

มองทางล่วงหน้า ยิ่งเร็วยิ่งต้องมองไกล

          ขยับสู่ขั้นตอนต่อไป คือ การขี่อ้อมไพลอนเป็นรูปวงรีแบบต่อเนื่องโดยไม่เบรก ซึ่งมีเรื่องการวางสายตาเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกรอบที่ขี่ครูฝึกจะชี้ให้ดูว่าสายตาควรมองตรงไหน และย้ำเสมอว่า สายตามองตรงไหน รถก็จะไปตรงนั้น ช่วงแรกอาจฝืนความรู้สึกไปบ้าง เพราะจะติดมองทาง ด้านหน้า ไม่ใช่ ล่วงหน้า แต่เมื่อขี่หลายๆ รอบ ก็จะเริ่มมองทางล่วงหน้าได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ขี่ได้อย่างไหลลื่นต่อเนื่องมากขึ้น ใช้ความเร็วได้มากขึ้น สังเกตว่าสามารถปล่อยคลัตช์ออกได้จนสุด และการเข้าโค้งด้วยไลน์ที่ถูกต้อง คือ ชิดฝั่งนอกของโค้งก่อนเลี้ยว ทำให้เลี้ยวได้โดยไม่ต้องลดความเร็วลงมากนัก ช่วงนี้รู้สึกว่าการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นเรื่องสนุก หมดความกลัวและความกังวล ครูฝึกสั่งให้หยุดแล้วก็ยังอยากจะขี่ต่อ

 

เดินคันเร่งเนียนๆ จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

 

เปิด-ปิดคันเร่ง

            เมื่อครูฝึกเห็นว่าขี่คล่องแล้ว จึงให้ลองเปิดคันเร่งในช่วงทางตรงระยะทางสั้นๆ ครูฝึกขี่สาธิตให้ดู 3-4 รอบ เปิดคันเร่งในช่วงทางตรงแล้วปิดคันเร่งก่อนถึงโค้ง รถหน่วงความเร็วลงพอเหมาะ เลี้ยวเข้าโค้งได้โดยไม่ต้องแตะเบรก เรื่องการขี่ได้เร็วยังไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับการขี่ได้อย่าง Smooth ต่อเนื่อง ซึ่งต้องนำทักษะที่เรียนมาทั้งหมดมาใช้พร้อมกัน ทั้งการบาลานซ์รถ การมองทางล่วงหน้า และไลน์ในการเข้าโค้งที่ถูกต้อง ทำให้ครูฝึกขี่ได้พริ้วดูเพลิน เครื่องยนต์ของมอนสเตอร์ 797 ที่เป็นแบบเบนซิน L-Twin 2 วาล์ว/สูบ หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ 803 ซีซี. 75 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที ให้การตอบสนองที่เป็นมิตรกับมือใหม่ คันเร่งควบคุมความเร็วได้ง่าย  

 

 

            หลังจากขี่วนซ้ายอย่างเดียวคล่องแล้ว ครูฝึกจึงให้ลองขี่เป็นเลข 8 ทำให้ต้องเลี้ยวทั้งซ้ายและขวา เริ่มจากการขี่โดยไม่ใช้คันเร่งก่อน การขี่แบบนี้จะเห็นความสำคัญของการมองทางล่วงหน้า ถ้ามองใกล้จะขี่ได้ไม่ไหลลื่น ต้องลดความเร็วลงมากเกินไป เพราะเมื่อไม่มองทางล่วงหน้าก็จะไม่กล้าใช้ความเร็ว ครูฝึกจะสั่งให้ย้ายจุดที่ต้องมองไปเรื่อยๆ สังเกตว่าถ้าทำตามที่ครูฝึกบอกได้ ก็จะขี่ได้เร็วขึ้น ต่อเนื่องขึ้น และที่สำคัญคือ มีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะการมองทางล่วงหน้าจะทำให้มีเวลาประเมินสถานการณ์ และหาทางหลบเลี่ยงหรือแก้ไขได้ทัน

 

 

เข้าโค้งต้องมีความเร็ว

             ในช่วงที่ขี่เป็นเลข 8 ก็ยังมีพลั้งเผลอลืมมองทางล่วงหน้าไปบ้าง เมื่อลดความเร็วลงมากเกินไปขณะเข้าโค้ง รถจะหนักและเหมือนจะล้ม ต้องออกแรงควบคุมแฮนด์มากขึ้น เพราะเหมือนแฮนด์จะพับ กลายเป็นเกร็งแบบไม่รู้ตัว ครูฝึกสังเกตเห็นและตะโกนบอกให้ผ่อนคลาย เรียกสติกลับมาแล้วขี่ต่อ มองทางล่วงหน้าตามที่ครูฝึกบอก จึงเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่เร็วเกินไป แต่ก็ไม่ช้าเกินไป รู้สึกว่ารถเบาและเกาะถนนดีกว่า เลี้ยวง่ายกว่า

 

 

            เห็นความจำเป็นของการมองทางล่วงหน้าอย่างชัดเจน เมื่อครูฝึกให้ลองเปิดคันเร่งขณะขี่เป็นเลข 8 ถ้าไม่มองทางล่วงหน้าจะไม่กล้าเปิดคันเร่ง หรือเปิดนิดเดียวแล้วปิดเร็วเกินไป ทำให้รถเข้าโค้งด้วยความเร็วที่ต่ำเกินไป ปัญหาเดิมก็จะกลับมา แต่เมื่อมองทางล่วงหน้า ก็จะกล้าเปิดคันเร่งนานขึ้น และไม่ปิดคันเร่งเร็วเกินไป ก็จะเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เหมาะสม รอบหลังๆ ขออนุญาตครูฝึก ลองเปิดคันเร่งนิดๆ ตอนเข้าโค้ง ก็รู้สึกว่าเข้าโค้งได้ง่ายดี รถเบาและมั่นคง

 

 

ปิดท้ายขับรอบใหญ่ ใช้เกียร์ 2-3

            ปิดท้ายด้วยการขี่เกือบเต็มรอบสนาม ออกจากจุดสตาร์ทเป็นโค้งซ้ายกว้าง ต่อด้วยโค้งซ้าย-ขวาแคบๆ และโค้งซ้ายกว้างก่อนเข้าสู่ทางตรง ช่วงนี้ใช้ความเร็วได้นิดๆ ก่อนจะต้องปิดคันเร่งเพื่อเข้าสู่โค้งซ้ายแคบ พ้นออกมาแล้วมีทางตรงสั้นๆ ต่อเนื่องด้วยโค้งขวากว้าง และโค้งซ้ายผ่านหน้าจุดสตาร์ท

 

 

             ทุกรอบการขับจะต้องขี่ตามครูฝึก ที่คอยให้สัญญาณว่าให้เปิดหรือปิดคันเร่ง ส่งสัญญาณมือเป็นระยะๆ ว่าให้มองทางล่วงหน้า ซึ่งช่วยได้เยอะ เพราะมือใหม่เมื่อต้องทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน ก็ทำให้หลงลืมบางเรื่องไปได้ ตลอดการขี่ต้องมีสติ อาจเพราะยังเป็นมือใหม่ การควบคุมรถยังไม่เป็นธรรมชาติหรือเป็นอัตโนมัติ แต่ก็รู้สึกว่ายิ่งขี่ยิ่งสนุก อารมณ์คล้ายๆ ตอนขี่จักรยานเป็นครั้งแรก ที่อยากจะขี่ไปเรื่อยๆ ไม่อยากหยุด โดยเฉพาะช่วงค่ำที่ความร้อนผ่อนคลายลงไปมาก ไฟสนามและไฟหน้ารถสว่างเหลือเฟือ จึงไม่เป็นอุปสรรคในการฝึกขี่

 

Ducati Monster 797 น้องใหม่ล่าสุดในตระกูล

 

 

            Ducati Monster 797 (ดูคาติ มอนสเตอร์ 797) เป็นรถที่ขี่ง่าย ควบคุมง่าย ขี่ได้นานโดยไม่เมื่อยล้า แม้จะเพิ่งขี่เป็นครั้งแรก ใช้เวลาอยู่กับรถไม่นานก็รู้สึกมั่นใจ เป็นโอกาสที่ดีที่เข้ารับการฝึกขี่บิ๊กไบค์กับดูคาติหรือ DRE เพราะมีความปลอดภัยทั้งในด้านสถานที่ อุปกรณ์ป้องกัน และครูฝึกที่ได้รับการอบรม ดีกว่าหัดเองที่จะไม่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหน หลังจากนี้ก็ต้องฝึกขี่ให้เกิดความชำนาญบนพื้นฐานของความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อให้ขี่บิ๊กไบค์ได้อย่างสนุกและปลอดภัย

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook